ถ่ายเป็นเลือด อาจนำมาสู่การเป็นโรคร้าย ควรเข้าพบแพทย์เมื่อมีอาการ

ศูนย์ : ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ

บทความโดย : นพ. สมบุญ รุ่งจิรธนานนท์

ถ่ายเป็นเลือด

การขับถ่ายเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องทำเป็นกิจวัตร แต่เมื่อใดที่มีการถ่ายเป็นเลือด หรือพบถึงการเปลี่ยนแปลงของสีอุจจาระเพียงเล็กน้อย นั้นหมายถึงการเกิดความผิดปกติภายในระบบทางเดินอาหารแน่นอน ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าเป็นเพียงแค่ริดสีดวงทวาร ไม่ทันคาดคิดว่าการถ่ายเป็นเลือดนั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ จึงไม่ควรชะล่าใจเมื่อเกิดอาการนี้ขึ้นกับคุณ


ถ่ายเป็นเลือด คืออะไร


ถ่ายเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด

การถ่ายเป็นเลือด ถ่ายมีเลือดปน เป็นลักษณะอาการที่มีเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากทวารหนัก ถ่ายอุจจาระแล้วมีเลือดหรือลิ่มเลือดปนอยู่ หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีแดงเข้ม ถ่ายเป็นเลือดเกิดจากอะไร สาเหตุหลักที่มักทำให้ถ่ายเป็นเลือดเกิดจากความผิดปกติภายในระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ หรือบาดแผลที่เส้นเลือดดำส่วนปลายทวารหนัก ซึ่งการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดเป็นจุดเริ่มต้นของโรคที่อาจมีความรุนแรงมากกว่าโรคริดสีดวงทวารได้

> กลับสารบัญ


สังเกตอย่างไรว่าอาจมีเลือดออกในทางเดินอาหาร

เบื้องต้นให้สังเกตสีอุจจาระของตัวเองทุกวัน มีความผิดปกติหรือเปลี่ยนแปลงไปหรือ หากมีภาวะอุจจาระปนเลือด หรือถ่ายดำ อาจเกิดจากความผิดปกติของทางเดินอาหารส่วนต้น เช่น แผลในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็ก แต่หากเลือดออกลำไส้ใหญ่ จะมีอาการถ่ายเป็นเลือดสด หรือไม่มีอาการชัดเจน แต่อาจมีอาการอื่นๆ แทน เช่น อ่อนเพลีย หน้ามืด เหนื่อยง่ายเป็นต้น มักเกิดในผู้สูงอายุ

ข้อมูลเพิ่มเติมของโรคที่ควรรู้ : กรดไหลย้อน สาเหตุของหลอดอาหารอักเสบ

> กลับสารบัญ


ถ่ายเป็นเลือดแบบไหน ควรมาพบแพทย์

อาการ "ถ่ายเป็นเลือด" เป็นสัญญาณผิดปกติที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อมีอาการบางอย่างร่วมด้วย ซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคริดสีดวงทวาร ลำไส้อักเสบ หรือแผลในทางเดินอาหาร เป็นต้น ซึ่งควรไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมกับการถ่ายเป็นเลือด ดังนี้

  • ถ่ายเป็นเลือดซ้ำ ๆ หรือเรื้อรัง เกิดบ่อยหรือเป็นต่อเนื่องเกิน 1–2 วัน
  • เลือดออกมาก มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก หรือลักษณะอุจจาระเป็นเลือดสดปนมาชัดเจน
  • มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดท้องรุนแรง หน้ามืด วิงเวียน หรือเป็นลม น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ อ่อนเพลีย ซีด มีไข้หรือมีประวัติไข้เรื้อรัง
  • เลือดมีลักษณะผิดปกติ อาทิ เลือดดำคล้ำ อาจหมายถึงมีเลือดออกจากกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กตอนต้น หรือ อุจจาระดำเหนียวเหมือนยางมะตอย
  • มีประวัติโรคประจำตัว เช่น โรคตับแข็ง ใช้ยาต้านเกล็ดเลือด/ยาละลายลิ่มเลือด หรือมีประวัติมะเร็งในครอบครัว

ถ้าอาการถ่ายเป็นเลือดเกิดเพียงครั้งเดียว และไม่มีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย อาจสังเกตอาการได้ 1–2 วัน แต่หากไม่ดีขึ้น ถ่ายเป็นสีดำ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย

> กลับสารบัญ


ปรึกษาแพทย์ออนไลน์

โรคอันตรายที่เริ่มต้นมาจากการถ่ายเป็นเลือด

การถ่ายเป็นเลือดอาจเป็นการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยไปจนถึงสัญญาณอันตรายของปัญหาสุขภาพที่สำคัญ โดยความรุนแรงของโรคสามารถดูได้จากปริมาณของเลือดที่ถ่ายออกมา ระยะเวลาและจำนวนครั้งที่ถ่ายเป็นเลือด ดังนี้

  1. เลือดออกในกระเพาะอาหาร เกิดจากความผิดปกติบริเวณทางเดินอาหาร โดยอาการนั้นอาจเริ่มจากอาเจียนออกมาเป็นเลือดก่อน ตามด้วยอุจจาระเป็นเลือดสีเข้มจนเกือบดำ บางรายอาจรู้สึกอ่อนเพลีย หน้ามืด เหนื่อยง่าย และอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งกระเพาะอาหารได้
  2. เลือดออกในลำไส้ใหญ่ เป็นอาการที่มีการถ่ายเป็นเลือดสด หรือลิ่มเลือดไหลออกมาพร้อมกับอุจจาระ แต่ไม่มีอาการปวดแสบทวารหนัก อาจเกิดจากการมีเลือดออกในลำไส้ใหญ่
  3. โรคลำไส้ขาดเลือด เป็นภาวะที่เกิดจากเลือดไม่สามารถเข้าไปไหลเวียนเลี้ยงผนังลำไส้ได้ ทำให้เซลล์ลำไส้ขาดเลือด หากมีอาการถ่ายเป็นเลือดแสดงว่าอาการเริ่มหนักแล้ว รวมทั้งมีอาการปวดเกร็งท้อง อาจปวดมากจนหมดสติ และเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได้
  4. โรคติ่งเนื้องอกลำไส้ใหญ่ ติ่งเนื้องอกนี้มีลักษณะกลม สีออกชมพู อาจมีก้อนเดียวหรือหลายก้อน สามารถเกิดได้ทุกส่วนของลำไส้ใหญ่ และสามารถพัฒนาเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ โดยมักไม่มีอาการแสดงเด่นชัด แต่อาจถ่ายเป็นเลือดแบบเป็นๆ หายๆ
  5. โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคที่อยู่ในอันดับต้นๆ ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด โดยจะมีอาการขับถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องผูก ท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด หรือถ่ายดำ บางรายมาพบแพทย์เพราะอ่อนเพลียอ่อนแรงแบบไม่มีสาเหตุ หรือจากการเสียเลือดจนเป็นโลหิตจาง

> กลับสารบัญ


การวินิจฉัยโรคและแนวทางการรักษาอาการถ่ายเป็นเลือด

ปัญหาของการถ่ายเป็นเลือด อาจมาจากหลายสาเหตุ โดยแนวทางการรักษาแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ตามอาการหนักเบา

  1. ถ่ายเป็นเลือดปนเล็กน้อย กรณีที่หากพบว่าเป็นอาการถ่ายเป็นเลือด ที่มีอุจจาระมีเลือดปนเล็กน้อยอาจเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่รุนแรง เช่น อาการท้องผูก แค่ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง ดื่มน้ำมาก ๆ ฝึกสุขนิสัยการขับถ่าย เป็นต้น
  2. ถ่ายเป็นเลือดออกในปริมาณมาก หากถ่ายเป็นเลือดในปริมาณมาก ถ่ายเป็นเลือดบ่อย ในระยะเวลาที่ติดต่อกันเป็นเวลานานควรไปพบแพทย์ โดยแพทย์จะทำการรักษาตามอาการที่ผู้ป่วยเผชิญอยู่ ทั้งนี้ผู้ป่วยที่มีอาการถ่ายเป็นเลือดในปริมาณมาก จะต้องตรวจเพื่อหาสาเหตุแล้ววางแผนการรักษา เช่น ตรวจอุจจาระเพื่อค้นหาภาวะเลือดออก หรือ ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพื่อให้แพทย์ได้ทำการรักษาอย่างเหมาะสม

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ตรวจหาสาเหตุภาวะถ่ายเป็นเลือด

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) เป็นวิธีการค้นหาภาวะเลือดออกว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือที่เป็นท่อขนาดเล็กที่มีกล้องติดอยู่ที่ส่วนปลายสอดเข้าไปทางทวารหนักเพื่อตรวจหาความผิดปกติภายในลำไส้ใหญ่ ทำให้แพทย์สามารถเห็นรายละเอียดต่างๆ ตลอดทั้งลำไส้ใหญ่ส่วนต้นและส่วนปลายได้ อีกทั้งแพทย์สามารถตัดชิ้นเนื้อนั้นออกมาตรวจได้โดยตรง รวมทั้งยังเป็นการตรวจคัดกรองหามะเร็งลำไส้ใหญ่ และช่วยในการรักษาก้อนเนื้องอกที่บริเวณผนังลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย ซึ่งผู้ที่มีสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพดังนี้ควรเข้ารับการตรวจ ได้แก่

  • มีอาการท้องอืด แน่นท้อง ปวดท้องเป็นๆ หายๆ
  • ท้องผูกสลับท้องเสีย หรือท้องเสียเรื้อรัง
  • ถ่ายเป็นเลือด ขนาดของอุจจาระที่เล็กลง
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด

แนวทางการรักษาอาการถ่ายเป็นเลือด

  1. การรักษาแผลที่ทวารหนัก แนะนำให้ผู้ป่วยนั่งแช่น้ำอุ่นจะช่วยบรรเทาแผล และบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวาร โดยการรักษาในแนวทางนี้ควรรักษาอาการท้องผูกควบคู่ไปด้วย
  2. การห้ามเลือด แพทย์จะสอดกล้องพร้อมเครื่องมือไปทางทวารหนัก และตรวจหาตำแหน่งอวัยวะภายในที่เสียหายและมีเลือดออก เพื่อฉีดสารให้เลือดหยุดไหล โดยอาจใช้เลเซอร์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ยึดปิดเส้นเลือดที่เสียหายและมีเลือดไหล
  3. การให้ยา ในบางโรคแพทย์อาจจ่ายยาเพื่อรักษาอาการ เช่น ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร รวมไปถึงการให้ยาต้านการอักเสบเพื่อรักษาลำไส้ใหญ่อักเสบ
  4. การผ่าตัด ในบางกรณีแพทย์อาจต้องทำการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดนำติ่งเนื้อออก ผ่าตัดนำเนื้อร้ายจากการป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือผ่าตัดนำเนื้อเยื่อส่วนที่เสียหายจากการบาดเจ็บหรืออักเสบออกไป เป็นต้น
ข้อมูลและแนวทางการรักษาเพิ่มเติม : การส่องกล้องทางเดินอาหาร

> กลับสารบัญ


ถ่ายเป็นเลือด อย่าได้นิ่งนอนใจ รีบปรึกษาแพทย์

ทั้งนี้ หากพบว่าถ่ายเป็นเลือด หรืออุจจาระปนเลือด อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะอาจนำมาสู่การเป็นโรคร้ายดังที่กล่าวมาข้างต้นได้ ควรเข้ามาพบแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินอาหารและตับ เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด จากการซักประวัติ หรือการส่องกล้องตรวจระบบทางเดินอาหาร เพื่อดูรอยโรคที่ทำให้เกิดเลือดออกหรือไม่ ตรงจุดใด และแนะนำการรักษาต่อไป โดยศูนย์ทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลนครธน พร้อมให้บริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ทั้งตรวจวินิจฉัย และรักษาโรค ต่างๆ อาทิ ไขมันพอกตับ โรคมะเร็งตับ ด้วยห้องทำหัตถการส่องกล้อง ห้องเตรียมลำไส้ และห้องพักฟื้นที่ทันสมัย แบบครบจบในสถานที่เดียว

> กลับสารบัญ


ช่องทางติดต่อโรงพยาบาลนครธน:

  1. - Website : https://www.nakornthon.com
  2. - Facebook : Nakornthon Hospital
  3. - Line : @nakornthon
  4. - Tel: 02-450-9999 (ตลอด 24 ชั่วโมง)


ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย




Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย