วิตามินแบบฉีด (ดริปวิตามิน) กับ วิตามินแบบรับประทาน แบบไหนที่เหมาะและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากัน
ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพนครธน
บทความโดย : พญ. ธนพร เอี่ยมประไพ
การมีสุขภาพที่ดีนอกจากการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่แล้ว การเติมวิตามินเข้าสู่ร่างกาย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มปริมาณสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพื่อบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้กับระบบของร่างกายส่วนที่เสื่อมสภาพจากภายใน แต่ในปัจจุบันมีวิตามินหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งในรูปแบบการฉีดวิตามินและวิตามินแบบรับประทาน แล้วแบบไหนที่เหมาะและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากัน
วิตามินแบบฉีด กับ วิตามินแบบรับประทาน เป็นอย่างไร
วิตามินแบบฉีด หรือ ดริปวิตามิน (IV Drip) เป็นการให้สารวิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านหลอดเลือดดำทางสายน้ำเกลือ เพื่อเพิ่มปริมาณสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพซึ่งจะช่วยบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้กับระบบของร่างกายส่วนที่เสื่อมสภาพ รวมทั้งด้านการบำรุงผิวพรรณจากภายใน
วิตามินแบบรับประทาน เป็นการรับประทานเข้าสู่ร่างกาย โดยรูปแบบของวิตามินที่ใช้กันนั้นก็แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
- วิตามินมาตรฐาน ซึ่งเป็นวิตามินที่ปรุงเป็นสูตรสำเร็จ หาซื้อได้ตามท้องตลาด ข้อเสียก็คือ ปริมาณวิตามินที่ได้รับ (dose) อาจไม่เพียงพอ ถ้าคุณขาดวิตามินหรือแร่ธาตุหลายชนิด คุณก็อาจจะต้องกินหลายชนิดและกินกันเป็นกำ ๆ เลยทีเดียว
- วิตามินเฉพาะบุคคล คือ วิตามินและสารอาหารที่แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยออกแบบ เลือกกำหนดส่วนผสมและปริมาณขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ จากการวิเคราะห์ผลตรวจสุขภาพเพื่อให้ได้รายการชนิดและปริมาณวิตามินตรงตามที่ร่างกายต้องการ
วิตามินแบบฉีด กับ วิตามินแบบรับประทาน ให้ผลลัพธ์ต่างกันอย่างไร
การรับวิตามินทั้งแบบฉีดและแบบรับประทานหลังจากร่างกายนำไปใช้นั้นให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกัน แต่จะมีความแตกต่างกันอยู่ตรงที่การดูดซึมสารอาหาร ได้แก่
- วิตามินแบบฉีด หรือ ดริปวิตามิน (IV Drip) สามารถเข้าสู่ระดับเซลล์ และสามารถนำไปใช้งานได้ทันที ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ดูดซึมได้ถึง 100% เพราะไม่ผ่านการทำงานของตับ วิตามินที่ได้รับจึงเข้าไปฟื้นฟู บำรุงร่างกาย และผิวพรรณได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
- วิตามินแบบรับประทาน กว่าที่ร่างกายจะนำสารอาหาร คุณประโยชน์ต่าง ๆ ออกมาใช้ฟื้นฟูสุขภาพ และผิวพรรณได้นั้น ต้องผ่านการทำงานของตับและลำไส้ เพื่อใช้เวลาในการดูดซึมก่อน และสามารถดูดซึมได้เพียงแค่ 50% ของวิตามินที่รับประทานไป หรือขึ้นกับความสามารถการดูดซึม หรือการทำงานของลำไส้
อย่างไรก็ตามวิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด อาจจะเหมาะกับการรับประทาน หรือบางชนิดอาจเหมาะกับการฉีดหรือดริปวิตามินมากกว่า ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของร่างกายและตามคำแนะนำของแพทย์
การวิตามินแบบฉีดเหมาะกับใครบ้าง
การวิตามินแบบฉีด หรือ ดริปวิตามิน (IV Drip) แต่ละครั้งจะมีการผสมแร่ธาตุและวิตามินที่จะให้เป็นสูตรเฉพาะ ที่ถูกกำหนดโดยแพทย์ตามประวัติการรักษา ผลการตรวจร่างกาย และปัญหาของผู้เข้ารับบริการแต่ละบุคคล โดยเหมาะกับ
- ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้เรื้อรัง เช่น คัดจมูกง่าย ไอจามบ่อยๆ ไมเกรนและไซนัสเรื้อรัง ติดเชื้อหวัดบ่อย
- ผู้มีผื่นคันผิวหนังเรื้อรัง ลมพิษเรื้อรัง
- บุคคลทั่วไปที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- ผู้ที่รู้สึกร่างกายอ่อนเพลีย
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวที่กำลังอ่อนแอหรือเสื่อมสภาพอย่างเร่งด่วนหลังจากออกแดดหย่างหนัก
- ผู้ที่อยากเปลี่ยนแปลงผิวให้กระจ่างใสขึ้น ดูสุขภาพดี
- ผู้ที่นอนดึกหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ จนผิวพรรณไม่สดใส
- ผู้ที่ผิวขาดความชุ่มชื้นจนแห้ง หยาบกระด้าง หมองคล้ำ
- แนะนำสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
วิตามินแบบรับประทานเหมาะกับใครบ้าง
การรับประทานวิตามินเสริมเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าวิตามินที่รับประทานเข้าไปได้ประโยชน์กับร่างกายจริงๆ เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน วิตามินที่ซื้อมารับประทานนั้นอาจไม่เหมาะสมและตอบโจทย์ต่อสุขภาพร่างกาย สำหรับทุกคน การเข้าปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย เพื่อตรวจระดับสมดุลของสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้สามารถออกแบบวิตามินเฉพาะบุคคลได้อย่างเหมาะสม ตรงตามความต้องการของร่างกายแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง โดยเหมาะกับ
- ผู้ที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะรับประทานวิตามินเสริมตัวไหนดี
- ผู้ที่ทำงานหนัก หรือมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง
- ผู้ที่รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ เช่น ไม่รับประทานผักผลไม้ หรือมีความกังวลเกี่ยวกับโภชนาการของตนเอง
- ผู้ที่มีภาวะอื่นๆ เช่น การขาดสารอาหาร มีความเครียดและวิตกกังวล นอนไม่หลับ เป็นต้น
- ผู้ที่รับประทานวิตามิน (อาหารเสริม) อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานแต่ไม่เคยรับการตรวจดูระดับวิตามิน (วิตามินและแร่ธาตุบางชนิด หากมีปริมาณสูงเกินไปจะเป็นอันตรายกับร่างกายได้)
อย่างไรก็ตามทั้งสองวิธีสามารถทำควบคู่กันไปได้ หากเราวิตามินแบบฉีดไปแล้ว สามารถเลือกรับประทานวิตามินตัวอื่นๆ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของวิตามินที่ฉีดเข้าไปได้เช่นกัน
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์สุขภาพนครธน