กินวิตามินช่วงเวลาไหน คู่กับอะไรให้ผลดีที่สุด
ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพนครธน
บทความโดย : พญ. ธนพร เอี่ยมประไพ
หลายคนรู้ว่าวิตามินมีประโยชนต่อร่างกาย แค่คุณรู้หรือไม่ว่า ช่วงเวลาที่กินวิตามินนั้นมีผลต่อประสิทธิภาพในการนำไปใช้ของร่างกาย โดยวิตามินแต่ละชนิดจะมีช่วงเวลากินที่แตกต่างกันไป และควรกินวิตามินคู่กับอะไร เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากวิตามินสูงสุด มาเช็กเวลาที่ถูกต้องกันดีกว่า โดยวิตามินที่เรารับประทานกันทุกวันนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ วิตามินกลุ่มที่ละลายในน้ำ และกลุ่มละลายในไขมัน
วิตามินกลุ่มที่ละลายในน้ำ
เป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ ส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะโดยไม่สะสมในร่างกาย ได้แก่
- วิตามินซี ควรกินหลังอาหารเช้าแล้วดื่มน้ำตามเยอะๆ ทั้งนี้ควรแบ่งกินครั้งละ 500 มล. 2 ครั้ง/วัน หรือจนครบขนาดที่แนะนำ เนื่องจากร่างกายดูดซึมได้ปริมาณจำกัด
- วิตามินบีรวม (B-complex vitamins) อาทิ บี 1, 2, 3, 5, 6, 9 และ 12 ควรกินก่อนอาหาร 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงก่อน อาหาร เพราะร่างกายจะดูดซึมไปใช้ได้ดีที่สุด
- วิตามินบี12 (Vitamin B12) ควรกินช่วงท้องว่างจะทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้ดี และแนะนำให้กินร่วมกับโฟลิก (Folic acid)
- ธาตุเหล็ก (Iron) ควรกินขณะท้องว่างจะดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีที่สุด
- แคลเซียม (Calcium) จะมี 2 ชนิด ได้แก่ แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate) ควรกินหลังอาหารทันที ดูดซึมได้ดีสุดหลังอาหารที่มีความเป็นกรด และ แคลเซียมซิเทรท (Calcium citrate) ควรกินตอนท้องว่าง แต่เลี่ยงกินพร้อมยาอื่น ๆ เพราะจะไปลดฤทธิ์ของยาได้
- สังกะสี (Zinc) ควรกินขณะท้องว่าง โดยอาจจะกิน 1 ชม. ก่อนอาหาร หรือ 2 ชม.หลังอาหาร ก็ได้ และที่สำคัญไม่ควรกินพร้อมกับแคลเซียมและธาตุเหล็ก
วิตามินกลุ่มละลายในไขมัน
วิตามินกลุ่มที่ละลายได้ดีในไขมัน ได้แก่ วิตามิน A D E K และวิตามินโคเอนไซม์ คิว 10 (Co Q10) รวมถึงวิตามินตัวอื่น ๆ ที่ละลายในไขมันได้ดี
ควรกินหลังอาหารจะดีที่สุด เนื่องจากจะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น พร้อมกับไขมันในอาหารที่กินเข้าไป
ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญในการรับประทานวิตามินแต่ละชนิด คือ เรื่องปริมาณ ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะวิตามินบางชนิด เช่น กลุ่มที่ละลายในไขมัน หากรับประทานในปริมาณที่สูงเกินไปหรือต่อเนื่องนานเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงกับร่างกายได้ ดังนั้นจึงควรปรึกษาจากแพทย์ เพราะจะทำให้ได้รับวิตามินที่ร่างกายต้องการในปริมาณที่เหมาะสมที่สุด
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์สุขภาพนครธน