ป้องกันไข้หวัดใหญ่ ด้วยวัคซีนที่ครอบคลุมยิ่งกว่า

ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพนครธน

บทความโดย :

วัคซีนไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่สามารถแพร่กระจายได้ง่ายและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง วัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโรค ลดความรุนแรงของอาการ เป็นหนึ่งในวิธีป้องกันที่ง่ายและได้ผลดี องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี และการฉีดวัดชีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี ไม่จำเป็นต้องร้องรอให้ครบ 1 ปี สามารถฉีดได้เลยโดยมีระยะห่างจากโดสก่อนหรือเข็มก่อนอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ที่ครอบคลุมมากยิ่งกว่าเดิม


โรคไข้หวัดใหญ่ คืออะไร?

โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นไวรัสที่มีชื่อว่า “ไวรัสอินฟลูเอนซ่า” (Influenza virus) โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ Influenza A และ B ซึ่งแต่ละชนิดแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยๆ ดังนี้

  1. ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (H1N1) และ ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (H3N2)
  2. ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ตระกูล Victoria และ ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ตระกูล Yamagata

ดังนั้น การใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่อาจระบาดในฤดูกาลนั้นๆ ได้มากกว่า ทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่น้อยลง

> กลับสารบัญ


สายพันธุ์วัคซีนไข้หวัดใหญ่

โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สำหรับซีกโลกใต้ปี ค.ศ. 2025 (Southern hemisphere (SH) 2025) ดังนี้


ชนิด 3 สายพันธุ์ ชนิด 4 สายพันธุ์
an A/Victoria/4897/2022 (H1N1) pdm09 -like virus an A/Victoria/4897/2022 (H1N1) pdm09 -like virus
an A/Croatia/10136RV/2023 (H3N2) -like virus an A/Croatia/10136RV/2023 (H3N2) -like virus
a B/Austria/1359417/2021 (B/Victoria lineage) -like virus a B/Austria/1359417/2021 (B/Victoria lineage) -like virus
a B/Phuket/3073/2013 (B/Yamagata lineage) -like virus (สายพันธุ์ที่ WHO ยกเลิก เนื่องจากไม่พบการระบาดตั้งแต่ปี 2020*)

เชื้อสายพันธุ์วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่จะมีความแตกต่างกันในแต่ละปี โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) จะเป็นผู้กำหนดสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่จะนำมาผลิตวัคซีนตามไวรัสที่ระบาดจริง โดยที่ผ่านมาจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ แต่ปัจจุบันเนื่องจากไม่พบการระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B/Yamagata มานานกว่า 4 ปี จึงมีความเสี่ยงต่ำมาก และจะใช้วัดซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์แทน

*โดยข้อมูลอ้างอิงจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุไว้ว่า

  1. WHO หรือ องค์การอนามัยโลก สนับสนุนการใช้วัดซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์แทน ชนิด 4 สายพันธุ์ เนื่องจากพบว่าสายพันธุ์ B-Yamagata อาจสูญพันธุ์ เพราะไม่มีการตรวจพบอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2020
  2. การได้รับวัดซีน 4 สายพันธุ์ไม่มีประโยชน์เพิ่ม (และได้รับ Antigen เพิ่มเติมที่ไม่จำเป็นในร่างกาย)
  3. วัคซีนชนิด 3 สายพันธุ์ มีข้อมูลสนับสนุนว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอกับทุกกลุ่ม ทั้งผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก
  4. ต่อไปในอนาคต (ปี 2569 เป็นต้นไป) มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะมีคงเหลือเฉพาะ ชนิด 3 สายพันธุ์

> กลับสารบัญ


ไข้หวัดใหญ่ติดต่อแพร่เชื้อโรค ได้อย่างไร?

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายมาก โดยสาเหตุเกิดจากการหายใจเอาเชื้อไวรัสที่กระจายอยู่ในอากาศจากการไอ จาม ของผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดใหญ่ หรือจากการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาการของโรคไข้หวัดใหญ่จะปรากฎขึ้นหลังจากได้รับเชื้อมาแล้ว 1-3 วัน ดังนั้น ในบางครั้งที่อาการของโรคยังไม่ปรากฎ ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อให้คนที่อยู่ใกล้ชิดได้โดยไม่รู้ตัว

> กลับสารบัญ




อาการของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักเริ่มมีอาการป่วยใน 1-2 วัน หลังได้รับเชื้อ เช่น มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา ตาแดง คัดจมูก น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ อาจมีการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนหรือท้องเสียร่วมด้วย โดยทั่วไปอาการป่วยจะดีขึ้นภายใน 3-4 วัน และหายเป็นปกติใน 1-2 สัปดาห์

> กลับสารบัญ


การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

  • เมื่อมีอาการป่วย ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
  • เวลาไอ หรือจาม ควรใช้กระดาษทิชชูปิดปากและจมูกแล้วทิ้งลงถังขยะที่มีฝาปิด
  • ล้างมือบ่อยๆ ก่อนรับประทานอาหาร หลังไอ จาม หรือสั่งน้ำมูก
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการไอจาม หรือมีไข้ตัวร้อน
  • หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่
  • เมื่อป่วยควรหยุดงาน หยุดเรียน หยุดกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น เพื่อให้หายป่วยเร็ว และไม่แพร่เชื้อให้กับคนอื่น
  • ผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงป่วยรุนแรง อาทิ โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และโรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างรับเคมีบำบัด ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

> กลับสารบัญ


ปรึกษาแพทย์ออนไลน์

ทำไมต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปี?

เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่เสมอ ทำให้เกิดเชื้อใหม่ในสัตว์และในคนอยู่เป็นระยะ เป็นเหตุให้ภูมิคุ้มกันโรคในสัตว์และในคนที่มีอยู่เดิมอาจไม่สามารถป้องกันโรคได้ นอกจากนี้ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่ไม่นานและมักจะลดต่ำลงในระยะเวลาไม่กี่เดือนหรือปี ดังนั้นการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีจึงเป็นการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันเหมาะสมกับเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่มาใหม่ในแต่ละปี และมีระดับภูมิคุ้มกันสูงอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะได้เตรียมรับมือกับเชื้อที่อาจเข้าสู่ร่างกายของเรา

ทั้งนี้ การฉีดวัดชีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 1 ปี สามารถฉีดได้เลยโดยมีระยะห่างจากโดสก่อนหรือเข็มก่อนอย่างน้อย 6 เดือน

> กลับสารบัญ


ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่พบได้บ่อย และสามารถส่งผลกระทบต่อทุกเพศทุกวัย แม้ว่าหลายคนอาจมองว่าเป็นโรคทั่วไป แต่แท้จริงแล้วอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค และควรฉีดทุกปี ทั้งนี้สามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลจากแพทย์ออนไลน์ได้เลย


ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย





Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย