ปวดหัว แน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย เสี่ยง ‘ภาวะหัวใจโต’
ศูนย์ : ศูนย์หัวใจ
บทความโดย : นพ. ศิรพัชร์ พูนวุฒิกุล
					หากคุณมีอาการหายใจลำบาก เหนื่อยง่ายกว่าปกติ เวียนศีรษะ อ่อนเพลียง่าย นอนราบไม่ได้เนื่องจากแน่นหน้าอก ให้สันนิษฐานไว้ก่อนได้เลยว่าคุณอาจเป็น “ภาวะหัวใจโต” ทั้งนี้ทั้งนั้นใครที่มีอาการเหล่านี้ก็อย่าเพิ่งตระหนกตกใจไป ลองมาพบแพทย์เพื่อรับคำวินิจฉัยเพิ่มเติมเสียก่อน หรือหากใครที่ยังไม่รู้ว่าโรคนี้มีสาเหตุเกิดจากอะไร จะป้องกันและรักษาได้อย่างไร ไปฟังคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจกันได้เลย
ภาวะหัวใจโต
ภาวะหัวใจโต แบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ
- กล้ามเนื้อหัวใจโตที่เกิดขึ้นเพราะกล้ามเนื้อที่หนาตัวกว่าปกติ คือ กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้นเพราะทำงานหนัก บีบตัวมากๆ เช่น ในกรณีความดันโลหิตสูง หรือลิ้นหัวใจตีบก็จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้นได้
 - กล้ามเนื้อหัวใจโตที่เกิดขึ้นเพราะกล้ามเนื้อบีบตัวไม่ดี มีเลือดคั่งค้างในหัวใจมาก คล้ายลูกโป่งใส่น้ำ ทำให้มีขนาดโตขึ้น ซึ่งมีอีกหลายโรคที่ทำให้เกิดภาวะโรคหัวใจ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ลิ้นหัวใจตีบหรือรั่ว หัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตาย เบาหวาน เป็นต้น
 
หัวใจโตมักมีอาการอย่างไร?
- หายใจลำบาก เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
 - หายใจเร็ว
 - เวียนศีรษะ อ่อนเพลียง่าย
 - ใจสั่น
 - บวมบริเวณเท้าตอนสายๆ
 - ไอโดยเฉพาะเวลานอน
 - นอนราบไม่ได้เนื่องจากแน่นหน้าอก
 
ทั้งนี้ การตรวจร่างกายจะมุ่งเน้นถึงสาเหตุของหัวใจโตมากกว่าขนาดของหัวใจที่โตขึ้น ดังนั้นวิธีการตรวจหาความผิดปกติของหัวใจจึงใช้การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและเอ็กซเรย์ทรวงอก (ปอดและหัวใจ) หากกล้ามเนื้อหัวใจหนากว่าปกติ หรือเคยมีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจตายมาก่อนจะแสดงให้เห็นจากคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
สาเหตุของภาวะหัวใจโต
- ความดันโลหิต สำหรับคนที่มีความดันโลหิตสูงอย่างต่อเนื่อง หัวใจจะทำงานหนักจึงทำให้หัวใจโตได้
 - ผู้ป่วยที่มีโรคลิ้นหัวใจ ไม่ว่าจะลิ้นหัวใจตีบหรือลิ้นหัวใจรั่ว มีการอักเสบติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจ โรคต่างๆ เหล่านี้อาจทำให้เกิดโรคหัวใจโต
 - โรคของกล้ามเนื้อหัวใจ
 - โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เช่น ผนังหัวใจรั่ว
 - โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
 - โรคความดันในปอดสูง
 - โรคโลหิตจาง หรือ ซีดเป็นเวลานาน
 - โรคต่อมไทรอยด์ไม่ว่าจะทำงานมากหรือน้อยก็ทำให้เกิดหัวใจโต
 - มีความผิดปกติเกี่ยวกับโปรตีนทำให้มีการสะสมโปรตีนในกล้ามเนื้อหัวใจที่เรียกว่า Amyloidosis
 - สำหรับท่านที่รับประทานธาตุเหล็กมากไปจะมีการสะสมของธาตุเหล็กเกิดที่ทำให้เกิดโรค Hemochromatosis
 
วิธีป้องกันภาวะหัวใจโต
- ควบคุมโรคความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วนและไม่ได้ออกกำลัง หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูงจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดโอกาสในการเกิดความดันโลหิตสูง ส่วนคนที่มีความดันโลหิตสูงอยู่แล้วต้องรับประทานยาและปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
 - สำหรับโรคทางพันธุกรรม ควรตรวจสอบประวัติครอบครัว หากมีประวัติโรคหัวใจในครอบครัวท่านควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเช็คอาการของโรคหัวใจ
 - รักษาปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
 
การตรวจหาสาเหตุของภาวะหัวใจโต
- คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
 - ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ซึ่งสามารถดูการบีบหัวใจ ลิ้นหัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ( Echocardiogram)
 - การเจาะเลือด (laboratory)
 - บางรายจำเป็นต้องฉีดสีเพื่อดูเส้นเลือดหัวใจ (CAG)
 
การรักษาภาวะหัวใจโต
การรักษาโรคหัวใจโตจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาต้นเหตุ ทั้งนี้อาจมีการใช้ยาเพื่อรักษาอาการบวม ลดความดันและรักษาอาการหัวใจวาย รักษาอาการหัวใจเต้นผิดปกติร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาด้วยการผ่าตัด โดยเฉพาะผู้ที่มีความผิดปกติของลิ้นหัวใจ
ข้อแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- หยุดสูบบุหรี่
 - ลดน้ำหนัก
 - รับประทานอาหารจืด
 - ควบคุมเบาหวาน
 - ควบคุมความดันให้เหมาะสม
 - ออกกำลังกาย
 - พักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
 
บทความทางการแพทย์ศูนย์หัวใจ
