รักษาผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่ว ด้วยเทคนิคสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัด
ศูนย์ : ศูนย์หัวใจ
บทความโดย : นพ. ธิปกร ผังเมืองดี
การรักษาผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วด้วยเทคนิคสายสวน (Transcatheter ASD Closure) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะผนังกั้นห้องหัวใจรั่วโดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถลดความเสี่ยง ลดความเจ็บปวดและผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด โดยที่แผลบริเวณขาหนีบมีขนาดเล็ก ใช้เวลาพักพื้น 48 ชั่วโมง ทำให้ผู้ป่วยพื้นตัวได้เร็ว และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เทคนิคสายสวนปิดผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่ว
สารบัญ
การรักษาผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วด้วยเทคนิคสายสวนทำได้อย่างไร
การใส่อุปกรณ์ปิดรูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องบนผ่านทางสายสวนหัวใจ (Transcatheter ASD Closure) เป็นการรักษาโรครูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องบน ด้วยการใส่อุปกรณ์ที่กางออกได้ปิดรูรั่วฝังไว้ที่ผนังกั้นหัวใจห้องบน ผ่านทางสายสวนหัวใจเข้าหลอดเลือดบริเวณขาหนีบ เมื่อถึงบริเวณรูรั่วอุปกรณ์จะถูกปล่อยไปวางยังตำแหน่งรูรั่วเพื่อปิดรูที่รั่ว หลังจากนั้นร่างกายจะค่อยๆ สร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาคลุมภายใน 3 - 6 เดือน โดยผู้ป่วยไม่ด้องดมยาสลบ ให้ยาชาเฉพาะที่โดย การฉีดยาชาบริเวณขาหนีบบริเวณที่จะเจาะเส้นเลือดเพื่อใส่สายสนและอุปกรณ์ ใช้เวลาในการทำหัตถการประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ข้อดีของการรักษาผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วด้วยเทคนิคสายสวน
- ลดความเสี่ยงและลดความเจ็บปวดจากการผ่าตัด
- แผลเล็ก เจ็บน้อย
- ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ประมาณ 48 ชั่วโมง ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว
การเตรียมตัวก่อนปิดรูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องบน
- ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจร่างกายและซักประวัติโดยละเอียด พร้อมการประเมินความพร้อมของร่างกายในการเข้ารับการรักษา
- ควรแจ้งแพทย์ถึงยา อาหารเสริม วิตามิน หรือสมุนไพรที่กำลังใช้อยู่
- หากใส่ฟันปลอม หรือเหล็กดัดฟัน ควรแจ้งแพทย์ก่อน
- เช้าวันรักษาผู้ป่วยควรทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ไม่ควรทาลิปสติกทาสีเล็บและทาแป้งบริเวณลำตัว
- ถอดเครื่องประดับต่างๆ ฟันปลอม รวมทั้งฝากทรัพย์สินมีค่าไว้ที่ญาติ
- เพื่อความปลอดภัย ผู้ป่วยจะได้รับการวัดความดันโลหิต วัดออกซิเจนในเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น
การปฏิบัติตัวหลังการรักษา
- กรณีใส่สายสวนผ่านหลอดเลือดแดงบริเวณขาหนีบให้นอนหงายราบห้ามยกศีรษะ ห้ามงอขาข้างขวา หรือข้างที่ใส่สายสวนหัวใจและจะมีการวางหมอนทรายทับแผลไว้ เป็นเวลา 4 ชั่วโมงเพื่อห้ามเลือด
- หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ เช่น แน่นหน้าอก เหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้ เวียนศีรษะ มีไข้ มีเลือดออก หรือคลำพบก้อนเลือดใต้ผิวหนังบริเวณแผลที่ใส่สายสวน ควรแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบทันที
- ผู้ป่วยจะต้องนอนพักเพื่อสังเกตอาการประมาณ 48 ชั่วโมง โดยแพทย์จะเข้าตรวจเยี่ยมอาการ ทำแผลบริเวณที่ใส่สายสวนหัวใจและตรวจดูตำแหน่งของอุปกรณ์พิเศษอีกครั้งด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอก (Echocardiogram) หากไม่พบอาการผิดปกติใดๆ แพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านได้
การปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
- รับประทานยาต้านเกล็ดเลือดให้ครบและต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีความจำเป็นต้องหยุดยาควรติดต่อแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อนทุกครั้ง
- ในระยะ 1-2 วันแรกไม่ควรเดินบ่อย และไม่ควรให้แผลถูกน้ำ ให้สังเกตบริเวณแผลหากพบอาการผิดปกติ เช่น แผลบวมแดง มีก้อนใต้ผิวหนังและกดเจ็บ มีหนองหรือน้ำเหลืองออกจากแผล มีไข้ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
- แพทย์จะนัดผู้ป่วยเพื่อติดตามผลการรักษาเป็นระยะๆ ทุก 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปีควรมาตรวจให้ตรงตามเวลาที่แพทย์นัดหมายอย่างต่อเนื่อง
- งดยกของหนักประมาณ 1 เดือน งดออกกำลังกายหนักๆ ในช่วงระยะ 3 เดือนแรก
- ผู้ป่วยที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังปิดรูรั่วประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อความปลอดภัย
โรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วแต่กำเนิด แม้ว่าจะน่ากลัว แต่เป็นแล้วหากรู้แต่เนิ่น ๆ อาการยังไม่รุนแรงถึงที่สุดก็มีวิธีรักษาได้ด้วยการใส่อุปกรณ์ปิดรูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องบนผ่านทางสายสวนหัวใจ (Transcatheter ASD Closure) อย่างไรก็ตามหากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจให้รีบปรึกษาแพทย์โดยทันที
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์หัวใจ