สาวๆ ต้องรู้! วิธีการเลือก “โบท็อกซ์” ที่ถูกต้อง
ศูนย์ : ศูนย์ผิวหนังและความงาม
บทความโดย : พญ. จิตประภัสสร เทียนวิบูลย์
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) นำมาใช้ในการเสริมความงาม เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (neurotoxin) โดยจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว Botulinum toxin type A หรือเรียกสั้นๆ ว่า ซึ่งโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อนั้นต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้รับบริการตัดสินใจในการเลือกยี่ห้อโบท็อกที่มีคุณภาพและเหมาะสม ให้ผลจากฉีดออกมาดูเป็นธรรมชาติและไม่มีผลข้างเคียง
Allergan (โบท็อกซ์อเมริกา)
Allergan เป็นบริษัท original ของ โบท็อกซ์มีงานวิจัยรับรองยาวนานที่สุด กว่า 3,500 งานวิจัย (since 1989) จึงน่าเชื่อถือได้ว่า protein complex ส่วนที่ 1, 2 นี้ผ่านการพัฒนามาเพื่อทำให้โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อยที่สุด และผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นๆ
โบท็อกซ์อเมริกาจะให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด ยากระจายตัวแคบที่สุด หมอจะสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ได้แม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุดเหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ lift ด้วยเทคนิค Nefertiti lift การฉีดฉีดโบท็อกซ์อเมริกา เข้ากล้ามเนื้อ เพื่อให้อยู่ได้นาน และผลออกมาดูเป็นธรรมชาตินั้น ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มิฉะนั้นจะเกิด คิ้วกระดก ยิ้มแข็ง แก้มตอบได้
วิธีการเลือกโบท็อกซ์ที่ถูกต้อง
- ศึกษาข้อมูลความแตกต่างของโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ
- พิจารณาความน่าเชื่อถือของยี่ห้อ
- ก่อนฉีด ให้ดูบรรจุภัณฑ์ การปิดซีล เลขทะเบียน อย. เอกสารกำกับ
- เช็คเลข Lot ที่กล่องและข้างขวดต้องตรงกัน
โบท็อกซ์แท้สังเกตจากอะไร?
- มีซีลใสๆ ป้องกันการเปิด
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับ
- เลข Lot ที่กล่องและข้างขวดตรงกัน
- ข้างขวดมีโฮโลแกรมสีรุ้ง
- เป็นยาเคลือบที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ
อันตรายจากโบท็อกซ์ปลอม
- โบท็อกซ์ไม่ได้ผล ฉีดแล้วกรามไม่ลง หน้าไม่ตึง หมดฤทธิ์ไว
- พบได้ประมาณ 1% สาเหตุส่วนนึงมาจากโบท็อกซ์ปลอม โบท็อกซ์หิ้ว เสี่ยงต่อการดื้อยา
บทความทางการแพทย์ศูนย์ผิวหนังและความงาม