Fraxel re:store เลเซอร์สร้างผิวรุ่นใหม่ ที่สามารถแก้ปัญหาผิวพรรณได้ดี

Fraxel เลเซอร์ มีหลักการทำงานอย่างไร?

หลักการทำงานของเลเซอร์ก็คือ เครื่องเลเซอร์สามารถปล่อยลำแสงช่วงอินฟราเรด (แสงซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้) ผ่านระบบกลไกอัจฉริยะและระบบโฟกัสอัตโนมัติ ส่งผ่านพลังงานเป็นแท่งคอลัมน์ที่เล็กแต่ลึกมาก จำนวนหลายๆคอลัมน์ เปรียบเหมือนจุดพิกเซลของภาพถ่าย โดยสามารถปรับจำนวนจุดได้อย่างละเอียด ตั้งแต่สิบจนถึงพันจุดต่อตารางเซนติเมตร โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยระดับของการรักษา และปรับความกว้างและความลึกของแต่ละคอลัมน์ ตลอดจนถึงจำนวนคอลัมน์ทั้งหมดให้เหมาะสมกับผิวของคนไข้แต่ละคน เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีโดยที่ลดผลข้างเคียงและให้ความรู้สึกอ่อนโยนขณะทำการรักษา ผลที่ได้ก็คือเซลล์ผิวเก่าๆ เช่น บริเวณรอยด่างดำ ฝ้า ริ้วรอยเหี่ยวย่น แผลเป็น หลุมสิว หรือรอยแตกลาย จะค่อยๆ ถูกผลัดออก ในขณะที่ร่างกายมีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ทดแทนเรื่อยๆ กล่าวคือเป็นเลเซอร์ที่ช่วยสร้างผิวนั่นเอง

Fraxel ดีกว่าเลเซอร์ชนิดอื่นๆ อย่างไร และทำไมต้องใช้ Fraxel re:store

ประมาณ ช่วงปี ค.ศ. 1970 มีการพัฒนาเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ เป็นเลเซอร์ลอกผิว นำมาใช้ในการรักษาริ้วรอย ในการรักษาจะเกิดบาดแผลกว้าง ตามมาด้วยการซ่อมแซมบาดแผลด้วยเนื้อเยื่อใหม่ๆ เนื้อเยื่อใหม่นี้ เรียกว่า Baby Face หรือหน้าเด็กทารก วิธีนี้คนไข้ต้องพักฟื้นนานนับเดือนและต้องพันผ้าพันแผลทั่วศีรษะ เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นและการติดเชื้ออีกด้วย ซึ่งวิธีนี้ไม่เหมาะกับผิวคนไทยนัก

ปี ค.ศ. 1983 Dr. Rox Anderson แห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด (Harvard University, USA) ได้คิดค้นหลักการทำเลเซอร์แบบไม่มีบาดแผลเป็น เลเซอร์ที่กระตุ้นผิว ซึ่งอาศัยความเฉพาะเจาะจงของลำแสงเลเซอร์บางชนิด กับส่วนประกอบในร่างกาย เช่น น้ำ สารในเม็ดเลือดแดง และผงสีเมลานิน (ผงสีที่ทำให้ผิวและเส้นผมของคนเรามีสีเข้มต่างกัน) ตัวอย่างเลเซอร์ที่ใช้หลักการนี้ เช่น PDL (พีดีแอล), 1450 Diode (ไดโอด), Nd-YAG (เอ็นดี แย้ก) เป็นต้น กลุ่มนี้มีข้อดีคือไม่ต้องพักฟื้นแต่ต้องอาศัยการรักษาหลายครั้งมาก และมีข้อจำกัดในประสิทธิภาพ ในกรณีหลุมสิวลึก แผลเป็น และริ้วรอยแห่งวัยที่เป็นมานานก็มักไม่ได้ผลเท่าที่ควร

ปี ค.ศ. 2003 Dr. Dieter Manstein และ Dr. Rox Anderson แห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ได้คิดค้นหลักการของเครื่อง Fraxel® (Fractional Photothermolysis) ทำให้เกิดความร้อนใต้ผิวลึก เป็นจุดเล็กเหมือนพิกเซลภาพถ่าย โดยมีเนื้อเยื่อรอบๆ จุดเล็กๆ ที่ไม่ได้ถูกความร้อน ทำให้ผิวหนังมีการซ่อมแซมได้เร็ว และไม่มีบาดแผล ไม่มีเลือดออกแต่อย่างใด จึงปลอดภัย ใช้ได้กับทั้งคนผิวขาวและผิวคล้ำ เหมาะสำหรับทั้งผิวหน้าและลำตัว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ คอลลาเจนใหม่ ผิวใหม่ที่เต่งตึงขึ้น ริ้วรอยจางลง และหลุมสิว แผลเป็น รอยแตกลาย ที่เต็มตื้นขึ้น โดยงานวิจัยนี้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากสมาคมเลเซอร์ศัลยศาสตร์อเมริกา

ค.ศ. 2007 บริษัท Reliant, USA เจ้าของสิทธิบัตรและผู้ผลิต Fraxel® ได้ทำการพัฒนาเลเซอร์รุ่นใหม่ เป็น Fraxel Re:store™ SR 1500 ซึ่งมีระบบคอมพิวเตอร์ช่วยควบคุมตำแหน่งและความถี่ของแต่ละจุดพิกเซลไม่ให้หนาแน่นเกินไป เมื่อมีการปรับเพิ่มพลังงานในแต่ละจุด ส่งผลให้รุ่นใหม่นี้มีระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น และยังเพิ่มระบบโฟกัสอัตโนมัติ ทำให้ลำแสงเลเซอร์ลงได้ลึกขึ้นโดยที่ไม่แพร่ไปทางด้านข้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา สังเกตว่าเครื่องรุ่นใหม่ไม่ต้องใช้น้ำยาสีฟ้าทาที่ผิวหนังขณะทำการรักษา เหมือนเครื่องรุ่นเก่า SR750

Fraxel Re:store™ ปลอดภัยหรือไม่ และใช้รักษาอะไรได้บ้าง

ครื่องเลเซอร์ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกาและไทย สำหรับริ้วรอยย่น จุดด่างดำจากวัย จากแสงแดด ฝ้า แผลเป็นจากสิว หลุมสิว แผลเป็นจากการผ่าตัด การสร้างผิวใหม่ (skin resurfacing) สามารถใช้รักษาภาวะเหล่านี้รวมถึงรอยแตกลายหน้าท้อง ต้นขา ให้ผิวบริเวณที่แตกหนาขึ้น เรียบเนียนขึ้น

Fraxel ใช้รักษาภาวะ :

• ฝ้า จุดด่างดำ กระแดด
• รอยหลุมลึก รอยแผลเป็นสิว แผลเป็นจากการผ่าตัด ซึ่งได้ผลดีและปลอดภัยสูงมาก
• รอยแตกลายหน้าท้อง และลำตัว
• ริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวที่หยาบกร้าน รูขุมขนใหญ่ ไม่ว่าจะเกิดจากวัย เวลา แสงแดด หรือมลภาวะ

ใครบ้างที่สามารถใช้ Fraxel ได้

ทุกคนที่มีปัญหาเรื่องผิวที่ได้กล่าวไว้ในขั้นต้น Fraxel เป็นเลเซอร์ที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถใช้ได้กับบุคคลทุกเพศทุกวัย ทั้งนี้ควรพบแพทย์เพื่อการประเมินความเหมาะสมเฉพาะบุคคล

ต้องทำการรักษากี่ครั้ง ผลที่ได้อยู่นานเท่าไร

ผิวแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถเห็นผลดีขึ้นได้ตั้งแต่หลังการรักษาครั้งแรก และมักจะเห็นผลสูงสุดจากการรักษา 4-6 ครั้ง ห่างกัน 2-6 สัปดาห์ โดยผิวจะดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะว่าร่างกายมีการสร้างเนื้อเยื่ออย่างต่อเนื่องนานถึง 6 เดือน หลังการรักษาครั้งสุดท้าย ผิวใหม่ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผิวของเราเอง จึงคงอยู่กับเราตราบเท่าที่เราจะรักษาไว้ได้ (ตามธรรมชาติของผิวหนัง คอลลาเจนจะถูกทำลายเป็นระยะๆ โดยการสร้างขึ้นทดแทน แต่จะทำไม่ทัน เมื่ออายุเลยวัยรุ่นมาแล้ว) ทั้งนี้จำนวนครั้งของการรักษายังขึ้นอยู่กับสภาพผิวของเราก่อนทำการรักษาว่าเป็นอย่างไร สามารถทนต่อระดับการรักษาแต่ละครั้งได้สูงขนาดไหน และมีการตอบสนองอย่างไรอีกด้วย

Fraxel Re:store™ เจ็บหรือไม่

การทำ Fraxel จะมีการทาครีมยาชาบริเวณที่จะทำการรักษาให้รู้สึกผ่อนคลาย และมีเครื่องสร้างลมเย็นที่ผิวหนังขณะทำการรักษา ทำให้รู้สึกสบายและอ่อนโยนขึ้น อาจรู้สึกร้อนผ่าวๆ เล็กน้อยได้

Fraxel Re:store™ ต้องพักฟื้นไหม

หลังทำสามารถกลับบ้านได้ทันที บริเวณที่ทำการรักษาอาจมีสีออกชมพูเรื่อขึ้นเล็กน้อย ประมาณไม่เกิน 24-48 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพผิว สามารถบรรเทาได้โดยการประคบความเย็น โดยต้องทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันแสงแดดไม่ให้ทำลายผิวหนัง