PRP ฟื้นฟูเซลล์ผิวหน้าให้เปล่งปลั่ง ใบหน้ากระชับอ่อนเยาว์

ศูนย์ : ศูนย์ผิวหนังและความงาม

บทความโดย : นพ. ชาญเกียรติ ส่องสันติภาพ

PRP ฟื้นฟูเซลล์ผิวหน้าให้เปล่งปลั่ง ใบหน้ากระชับอ่อนเยาว์

หากคุณกำลังประสบกับปัญหาเหล่านี้


  • ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ผิวหน้าโทรม ใต้ตาคล้ำ
  • ปัญหารอยสิว รอยแผลเป็น
  • ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวหน้าเเห้งขาดคอลลาเจน
  • ปัญหารอยหลุมสิวบนผิวหน้า

ซึ่งการฟื้นฟูหรือบำรุงด้วยครีมทั่วๆ ไปอาจไม่เพียงพอ ฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้าหากมีเทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟูใบหน้าที่ตอบโจทย์ต่อทุกสภาพผิวพรรณ ด้วยการทำ PRP (PLATELET RICH PLASMA) เทคโนโลยีเพื่อความงามที่ถูกคิดค้นและพัฒนามาเพื่อซ่อมแซมและเสริมสร้างส่วนต่างๆ บนใบหน้า ที่ให้ประสิทธิผลดีและมีความปลอดภัยสูง


PRP ฟื้นฟูผิวหน้าอย่างไร

PRP (PLATELET RICH PLASMA) ฟื้นฟูผิวหน้าด้วยการนำเลือดของตัวเองมาปั่นแยก และคัดเฉพาะพลาสมาที่มีเกล็ดเลือด และ Growth factor เข้มข้น โดยเกล็ดเลือดที่ได้จากการทำ PRP จะมีหน้าที่ในการรักษาเนื้อเยื่อและซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ ซึ่งเต็มไปด้วยโมเลกุล Growth Factor ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ และสเต็มเซลล์เพื่อซ่อมแซมผิวหนังที่เสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น ปัญหาผิวหน้าจากมลภาวะ ที่ทำให้ผิวหน้าเกิดการเสื่อมสภาพ เหี่ยวย่น มีริ้วรอย มีโพรงใต้ผิวหนัง และเมื่อทำการฉีดกลับเข้าไปใต้ผิวหนัง ก็จะทำหน้าที่เข้าไปเติมเต็มและยกผิวที่เป็นโพรง ที่เป็นสาเหตุของริ้วรอย หลุมสิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รวมถึงลดเม็ดสี ทำให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น


ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ไม่เสียค่าใช้จ่าย

PRP ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าอะไรบ้าง

PRP อุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ สามารถแก้ไขได้ทุกสภาพผิว ดังนี้

  • แก้ปัญหาผู้ที่มีความยืดหยุ่นของผิวน้อย ผิวหย่อนคล้อย โดยช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้น
  • ช่วยฟื้นฟู กระตุ้น ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ รอยคล้ำใต้ตา มีร่องแก้ม
  • ช่วยรักษาริ้วรอยตามส่วนต่างๆ ของใบหน้า ทั้งหน้าผาก หว่างคิ้วหรือหางตา
  • ช่วยรักษาสิว ฝ้ากระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดงจากสิว
  • ช่วยรักษาหลุมสิว ทำให้รูขุมขนเล็กลง
  • รักษารอยแผลเป็นให้มีขนาดเล็กลง

ข้อจำกัดในการทำ PRP หน้า

การทำ PRP (PLATELET RICH PLASMA) มีข้อจำกัดดังนี้

  • มีประวัติเป็นโรคหรือกลุ่มอาการที่มีความผิดปกติของเกล็ดเลือด เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
  • โรคเลือดจาง มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำรุนแรง (< 100,000 เกล็ดต่อไมโครลิตร) หรือ มีค่าฮีโมโกลบิน < 10 กรัมต่อเดซิลิตร
  • มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หรือมีการติดเชื้อเฉพาะส่วนในบริเวณที่ทำการรักษา
  • มีการใช้ยากลุ่ม NSAID อย่างต่อเนื่องภายใน 48 ชั่วโมง
  • ผู้ที่อยู่ในช่วงที่ต้องรับประทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือสลายลิ่มเลือด
  • มีไข้หรือเพิ่งเจ็บป่วย
  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือด หรือกระดูก
  • ไม่แนะนำให้ทำร่วมกับ Botox หรือ filler หากต้องการทำการรักษาร่วมกันให้เว้นระยะห่างจาก Botox 1 สัปดาห์ และ filler 2-3 สัปดาห์ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

การเตรียมตัวก่อนทำ PRP

ก่อนทำ PRP (PLATELET RICH PLASMA) ต้องมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้

  • เข้ามารับคำปรึกษากับแพทย์ เพื่อตรวจสภาพผิวหน้า ซักประวัติเบื้องต้น ว่าเหมาะสมต่อการทำ PRP หรือไม่อย่างไร
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม
  • ดื่มน้ำสะอาด ประมาณ 2 ลิตร
  • ห้ามรับประทานยาต้านการอักเสบและการแข็งตัวของเลือดในกลุ่ม ASA หรือยาในกลุ่ม NSIAD ก่อนทำ 2-3 วัน
  • หยุดยา Retinol และ Alpha hydroxyl acid ก่อนทำการรักษา 1 สัปดาห์
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิดอย่างน้อย 2-3 วัน ก่อนเข้ารับบริการ
  • งดอาหารที่มีไขมันสูง
  • งดการแต่งหน้าในวันที่เข้ารับบริการ

ขั้นตอนการทำ PRP ผิวหน้า

  1. ทำการเจาะดูดเลือดที่ข้อพับแขน ในปริมาณที่จะต้องใช้ หรือตามจำนวนที่แพทย์ประเมิน
  2. นำเลือดมาปั่นเพื่อให้ได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นและมี Growth Factor สูง
  3. เมื่อเเยกเกล็ดเลือดที่สมบูรณ์เเละเข้มข้นออกจากเกล็ดเลือดปกติแล้ว แพทย์นำออกมาเตรียมฉีด
  4. แพทย์ฉีด PRP เข้าสู่ใบหน้าที่ต้องการรักษา

การปฏิบัติตัวหลังทำ PRP ผิวหน้า

  • งดล้างหน้าหลังทำการรักษา 1 วัน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน เครื่องดื่มร้อน และอาหารรสจัดๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการช้ำและบวมรุนแรงมากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยา aspirin หรือ nurofen เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นตัวยาที่มีผลต่อเกล็ดเลือด อาจทำให้อาการฟกช้ำรุนแรงขึ้น
  • หลีกเลี่ยงอาหารเสริม เช่น วิตามินรวม น้ำมันปลา Glucosamine และวิตามินบีหรือวิตามินอี ซึ่งเป็นสารที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้อาการฟกช้ำรุนแรงขึ้นเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ หรือออกกำลังกาย หนักๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการออกแดด หรือการอาบแดดอย่างน้อย 72 ชั่วโมง
  • อย่าถู หรือแกะเกาบริเวณที่ทำการรักษา
  • หลีกเลี่ยงการประคบเย็นบริเวณที่ทำการรักษา
  • สามารถแต่งหน้าได้หลังทำการรักษาแล้ว 24 ชั่วโมง

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ PRP

สุขภาพผิวหน้าที่แลดูอ่อนเยาว์ จากการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ได้รับการฟื้นฟู กระตุ้น และเสริมสร้างผิวจากภายในในระดับลึก เพิ่มความเปล่งปลั่งดูมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ โดยระยะเวลาในการทำ PRP นั้น จะเห็นผลอย่างชัดเจนภายในระยะเวลา 3 เดือน แต่เพื่อการประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุด ควรทำซ้ำ 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ หรือตามดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานกว่า 1 ปี ทั้งนี้ผลของการรักษาก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมถึงการดูแลตัวเองหลังการรักษาร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม การทำ PRP ผิวหน้านั้นมีความปลอดภัย เพราะทุกขั้นตอนในการใช้เครื่องมือแพทย์ชนิดต่างๆ นั้น โดยเฉพาะ ตัวหลอดเก็บเลือดพิเศษ ที่เรียกว่า BCT Tube ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ และผ่านการฆ่าเชื้อทุกครั้ง เพื่อให้ได้ PRP ที่เข้มข้น และสามารถนำกลับเข้าสู่ร่างกาย ปราศจากการติดเชื้อ ที่สำคัญการทำ PRP ผิวหน้า เป็นการรักษาที่แพทย์ดูแลและทำหัตถการเองทุกเคส สนใจสามารถเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและความงามได้ โทร 024509999 ต่อ 1200-1201






ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย





Share :

บทความทางการแพทย์ศูนย์ผิวหนังและความงาม

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย