Q&A ตอบทุกข้อสงสัยของการดริปวิตามิน

ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพนครธน

บทความโดย : พญ. ชุติมา ศิริดำรงค์

Q&A ตอบทุกข้อสงสัยของการดริปวิตามิน

การดริปวิตามิน (Vitamin IV Drip) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคเสริมสุขภาพที่ได้รับความนิยม แต่ยังมีหลายคนที่ยังคงกังวล และยังคงตั้งคำถาม ว่าดีจริงหรือ ปลอดภัยแค่ไหน ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ดังนั้นมาไขข้อสงสัยเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจสำหรับผู้ที่กำลังมีความสนใจในการดริปวิตามินแต่ยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด รวมถึงความกังวลกันดีกว่า


Q: การดริปวิตามินเป็นอย่างไร?

A: การดริปวิตามิน (Vitamin IV Drip) เป็นการให้สารอาหารเข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านทางหลอดเลือดดำ โดยสารอาหารที่ให้ สามารถให้ได้ทั้งสารอาหารขนาดโมเลกุลเล็ก (Micronutrient) ได้แก่ วิตามินและเกลือแร่ และสามารถให้สารอาหารขนาดโมเลกุลใหญ่ (macronutrient)ได้แก่ กรดไขมันไม่อิ่มตัวบางชนิด โปรตีนขนาดเล็ก เช่น เปปไทด์ (peptide) และ กรดอะมิโน (amino acid) ได้เช่นกัน เป็นการดูแลสุขภาพอีกทางที่ได้รับความนิยมใน

> กลับสารบัญ


Q: ดริปวิตามินมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

A: การดริปวิตามิน ให้ประโยชน์อสุขภาพในหลายประการ เช่น เสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน, ช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายหลังการเจ็บป่วย การอักเสบต่างๆ หรือการบาดเจ็บของร่างกาย, ช่วยในด้านบำรุงผิวพรรณ, ช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงาน, ช่วยเสริมการทำงานของตับ, ลดการสะสมของอนุมูลอิสระในร่างกาย เป็นต้น

> กลับสารบัญ


Q: ดริปวิตามินปลอดภัยแค่ไหน?

A: การให้วิตามินทางหลอดเลือดดำมีความปลอดภัยสูง หากให้สารอาหารที่ผ่านมาตรฐานการรับรองจากองค์การอาหารและยา ให้ในปริมาณ ระยะเวลาและความถี่ที่เหมาะสม ตลอดจนอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ

> กลับสารบัญ


Q: ดริปวิตามินทำให้เส้นเลือดเปราะบางจริงหรือไม่?

Q: ดริปวิตามินทำให้เส้นเลือดเปราะบางจริงหรือไม่? A: การให้วิตามินทางหลอดเลือดดำ ไม่ได้ทำให้เส้นเลือดเปราะบาง แต่ในทางตรงกันข้าม สารอาหารบางชนิด กลับช่วยฟื้นฟูและบำรุงให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น

> กลับสารบัญ


Q: ดริปวิตามิน เห็นผลเร็วกว่าชนิดรับประทานจริงหรือ?

A: สารอาหารที่ให้ผ่านทางหลอดเลือดดำโดยตรง ร่างกายสามารถนำไปใช้ในกระบวนการการทำงานต่างๆ ของเซลล์ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบนการย่อยและดูดซึมผ่านทางระบบทางเดินอาหารเหมือนกับการรับประทาน การดริปวิตามินจึงเห็นผลลัพธ์รวดเร็วกว่า

> กลับสารบัญ


Q: ดริปวิตามินกี่ครั้งเห็นผล และส่งผลลัพธ์เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่?

A: จำนวนครั้งและระยะเวลาของการให้วิตามินทางหลอดเลือด ขึ้นกับปัญหาของผู้รับบริการ สุขภาพพื้นฐาน ภาวะโรคประจำตัว และความต้องการของแต่ละบุคคล โดยทั่วไป เริ่มต้นที่ สัปดาห์และ 1 ครั้ง ทั้งนี้ จำนวนครั้งตลอดจินความถี่ของการให้วิตามิน ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำและการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผู้รับบริการ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รับ และเห็นผลทางสุขภาพชัดเจน เมื่อมารับบริการต่อเนื่อง 3- 5 ครั้งขึ้นไป ทั้งนี้ ผลลัพธ์และการตอบสนอง อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรทำต่อเนื่อง เป็นประจำ เพื่อรักษาระดับวิตามินในร่างกาย

> กลับสารบัญ


Q: ทานวิตามินอยู่ ต้องหยุดก่อนดริปวิตามินหรือไม่?

A: โดยทั่วไป หากรับประทานวิตามินและเกลือแร่ในระดับเสริมอาหาร ไม่มีความจำเป็นที่ต้องงดการรับประทาน แต่ควรแจ้งประวัติการใช้ยาและสารเสริมอาหารทุกชนิด รวมถึงปริมาณและระยะเวลาที่ใช้ แก่แพทย์และบุคลากรการแพทย์ที่ให้ความดูแล ก่อนการพิจารณาการให้วิตามินทางหลอดเลือด และทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้รับบริการ

> กลับสารบัญ


Q: ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนดริปวิตามิน?

A: การรับวิตามินทางหลอดเลือดไม่จำเป็นต้องงดน้ำงดอาหาร สำหรับผู้เข้ารับบริการครั้งแรก ควรพบแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพพื้นฐานก่อนการรับบริการ แจ้งอาการ ปัญหา ตลอดจนความต้องการในการดูแลสุขภาพ รวมถึงแจ้งประวัติโรคประจำตัว ยาและสารเสริมอาหารที่ใช้ประจำแนะนำให้เตรียมผลตรวจสุขภาพในช่วง 3 - 6 เดือนก่อนการเข้ารับบริการมาด้วย ถ้ามี

> กลับสารบัญ


Q: มีผลข้างเคียงอย่างไร?

A: ผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อย แต่อาจเกิดขึ้น ได้ เช่น อาการบวม รอยช้ำ จ้ำเลือด หรือมีก้อนเลือดขังบริเวณที่ให้สารอาหารทางหลอดเลือด, การแพ้วิตามินหรือสารอาหารที่ให้

> กลับสารบัญ


Q: ทำไมต้องมาดริปวิตามินที่ศูนย์สุขภาพนครธน รพ. นครธน?

A: วิตามินดริปของทางโรงพยาบาล ได้รับการกำหนดสูตร วิเคราะห์ และตรวจสอบ โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มุ่งเน้นความ ปลอดภัยและประโยชน์สูงสุดต่อผู้รับบริการ โดยแต่ละสูตรนั้น ช่วยเสริม ฟื้นฟู รักษาสมดุลของร่างกาย และต่อบปัญหาอย่างตรงจุด ดริปวิตามิน สูตรเฉพาะของโรงพยาบาลนครธน มีอะไรบ้าง

  • Aura Bright Booster วิตามินบำบัดสูตร ช่วยฟื้นฟูผิวกระจ่างใส มีส่วนประกอบหลักคือ วิตามิน C และ Nac ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุ
  • Well Being Booster วิตามินบำบัดสูตร กำจัดสารพิษ (Chelation) ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ทำให้ร่างกายกลับมาสดชื่น
  • Energy Booster วิตามินบำบัดสูตร สร้างความสดชื่น ลดอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน นอนไม่หลับ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายให้กระฉับกระเฉงสดใส เป็นต้น
  • Immune Booster วิตามินบำบัดสูตร เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่น บรรเทาอาการภูมิแพ้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้เรื้อรังและบุคคลทั่วไปที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  • Recovery Booster วิตามินบำบัดสูตรบำรุง ฟื้นฟู หลังหายป่วย ลดการอักเสบของร่างกาย

> กลับสารบัญ


ดริปวิตามิน สูตรเฉพาะของโรงพยาบาลนครธน มีอะไรบ้าง

  • Aura Bright Booster วิตามินบำบัดสูตร ช่วยฟื้นฟูผิวกระจ่างใส มีส่วนประกอบหลักคือ วิตามิน C และ Nac ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุ
  • Well Being Booster วิตามินบำบัดสูตร กำจัดสารพิษ (Chelation) ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ทำให้ร่างกายกลับมาสดชื่น
  • Energy Booster วิตามินบำบัดสูตร สร้างความสดชื่น ลดอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน นอนไม่หลับ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายให้กระฉับกระเฉงสดใส เป็นต้น
  • Immune Booster วิตามินบำบัดสูตร เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่น บรรเทาอาการภูมิแพ้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้เรื้อรังและบุคคลทั่วไปที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  • Recovery Booster วิตามินบำบัดสูตรบำรุง ฟื้นฟู หลังหายป่วย ลดการอักเสบของร่างกาย

> กลับสารบัญ


อย่างไรก็ตามหากใครสนใจที่จะดริปวิตามินแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานก่อนรับการบริการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการมากที่สุด และสามารถปรึกษาปัญหาสุขภาพออนไลน์ได้ข้างล่างฟรี

พญ.ชุติมา ศิริดำรง พญ.ชุติมา ศิริดำรง

พญ.ชุติมา ศิริดำรง
เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
ศูนย์สุขภาพนครธน






ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย





Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย