ขี้เกียจตื่นเช้า ง่วงตอนกลางวัน ชอบขนมหวาน สัญญานเสี่ยง “ภาวะหมวกไตล้า”
ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพนครธน
ต่อมหมวกไตล้า หรือ ภาวะหมวกไตล้า เป็นภาวะที่หลาย ๆ คนไม่ค่อยรู้จักหรือคุ้นหูสักเท่าไหร่ แต่ว่าพบได้ค่อนข้างบ่อยในบุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย แล้วเราทราบหรือไม่ว่า...ต่อมหมวกไตมีหน้าที่อะไร? แล้วถ้าเกิดภาวะต่อมหมวกไตล้าจะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง? เราไปหาคำตอบกันค่ะ
ต่อมหมวกไต อวัยวะที่ทำหน้าที่สำคัญที่หลาย ๆ คนมักจะไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ ซึ่งหน้าที่ของต่อมหมวกไตก็คือการผลิตฮอร์โมน 3 ชนิด ซึ่งได้แก่
- ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ที่มีหน้าที่กำจัดความเครียดและสร้างพลังงานให้ร่างกาย แต่เมื่อไหร่ที่ร่างกายมีความเครียดสะสมเรื้อรัง หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ ระดับฮอร์โมนชนิดนี้จะสูงขึ้นและส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพและแก่เร็ว หรือถ้าระดับฮอร์โมนต่ำเกินไป ก็อาจะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้
- ฮอร์โมนอัลโดสเตอโรน (Aldosterone) มีหน้าที่ช่วยควบคุมสมดุลของแร่ธาตุโซเดียมและโปแตสเซียมในร่างกาย
- ฮอร์โมนดีเอชอีเอ (DHEA, Dehydroepiandosterone) มีหน้าที่ต้านความเครียด เพิ่มความแข็งแรง และชะลอความเสื่อมให้ร่างกาย
เมื่อการทำงานของต่อมหมวกไตมีความผิดปกติ แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกาย ซึ่งมักจะมีสัญญาณบ่งบอกให้เรารู้ได้ 13 สัญญาณหลัก ๆ ลองมาตรวจสอบตัวเองกันค่ะ ว่าคุณกำลังมีอาการเช่นนี้อยู่หรือไม่ แล้วคุณจะพบว่า ภาวะหมวกไตล้า อยู่ใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิดค่ะ
13 พฤติกรรม เพิ่มความเสี่ยง “ภาวะหมวกไตล้า”
ลองตรวจเช็คตัวคุณว่ามีอาการเช่นนี้บ่อยครั้งหรือไม่ หากมีอาการเช่นนี้ นี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังเป็นภาวะหมวกไตล้า
- ขี้เกียจตื่นนอนตอนเช้า
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย อยากนอนตอนกลางวัน
- ท้องอืด อาหารไม่ย่อย
- ชอบทานของหวาน น้ำตาล
- อาการดีขึ้นเมื่อกินของหวาน
- ติดกาแฟ
- ชอบกินเค็ม
- หน้ามืดวิงเวียน เวลาลุกนั่งเปลี่ยนท่า
- ผิวแห้ง หมองคล้ำ
- อารมณ์แปรปรวนง่าย
- โรคภูมิแพ้ ผื่นแพ้ง่าย
- เป็นหวัดบ่อย
- น้ำหนักขึ้นง่าย
วิธีการรักษาภาวะหมวกไตล้า
- ขจัดความเครียด - ความเครียด เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะหมวกไตล้า การรักษาภาวะหมวกไตล้า จึงต้องเริ่มต้นจากการรักษาที่ต้นเหตุ นั่นคือ กำจัดความเครียดให้หมดไป รู้จักวิธีการคลายความเครียด
- ตรวจหาภูมิแพ้อาหารแบบแอบแฝง - เชื่อหรือไม่ว่า “ภูมิแพ้อาหาร” นั้นสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณได้มากมาย ไม่ใช่เพียงแค่อาการแพ้เกิดผดผื่น อาการบวม แดง คัน อย่างที่เราเห็นกันบ่อยครั้งเพียงเท่านั้น
- นอนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง - การนอนคือการพักผ่อนให้ดีที่สุด อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมงนะคะ
- ควรนอนก่อน 4 ทุ่ม - เพื่อให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
- นอนราบระหว่างวัน เมื่อรู้สึกเพลีย - เมื่อรู้สึกเพลีย อย่าฝืนตัวเอง เพราะต่อให้ฝืนตัวเองต่อไปก็ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ แถมยังทำให้คุณไม่สามารถเรียนหรือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เมื่อรู้สึกอ่อนเพลีย ควรนอนราบเป็นการพักผ่อน
- ออกกำลังกายแบบเบา ๆ เพื่อความเพลิดเพลิน - เช่น โยคะ เดิน เป็นต้น เนื่องจากหากเราออกกำลังกายหนักเกินไป จะส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนได้
- รับประทานอาหารเช้าก่อน 10 โมง - รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรเลือกอาหารที่สด สะอาด เลือกอาหารประเภทไขมันที่เป็นไขมันชนิดดี และคาร์โบไฮเดรตที่มีเส้นใย
- ควรแบ่งเป็นมื้อย่อย 5-7 มื้อต่อวัน - ในคนที่มีภาวะต่อมหมวดไตล้า ควรแบ่งอาหารออกเป็นมื้อย่อย เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของร่างกาย
- สารเสริมอาหารบางชนิด - สำหรับคนที่รับประทานอาหารแล้วได้รับสารอาหารไม่เพียงพอกับสารอาหารที่ร่างกายต้องการ หรือมีภาวะที่ขาดสารอาหารบางชนิด อาจต้องรับประทานอาหารเสริมเพิ่มเติมตามที่แพทย์สั่ง
- ปรึกษาแพทย์ - หากคุณมีอาการรุนแรง เรื้อรัง หรือ ต้องการรับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อความแน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกวิธี และ เหมาะสำหรับตัวคุณมากที่สุด
บทความทางการแพทย์ศูนย์สุขภาพนครธน