มหัศจรรย์น้ำนมแม่ สุดยอดอาหารของลูกน้อย
ศูนย์ : บริการทางการแพทย์ด้านนมแม่, ศูนย์สุขภาพเด็ก
บทความโดย : นพ. ศราวุธ ตั้งมานะกุล
นมแม่ ขึ้นชื่อว่าเป็นสารอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย เพราะนอกจากมีโปรตีนสูง เหมาะสมต่อการเจิญเติบโตของลูกแล้ว ขณะที่ดูดนมแม่ ลูกยังจะได้สัมผัสความรักความอบอุ่นในอ้อมกอดของแม่อีกด้วย ทำให้เกิดเป็นสายใยรักแห่งครอบครัวขึ้นได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว อย่างน้อย 6 เดือน หลังจากนั้นให้เลี้ยงควบคู่กับอาหารตามวัยจนลูกอายุครบ 2 ปี หรือมากกว่านั้น
สารบัญ
น้ำนมแม่ สำคัญอย่างไร
น้ำนมแม่ คือ ของเหลวที่ร่างกายคุณแม่ผลิตขึ้นเพื่อเป็นอาหารหลักสำหรับทารก โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิด โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพตามช่วงเวลา เพื่อให้เหมาะสมกับพัฒนาการของลูกในแต่ละวัย น้ำนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นและเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของทารกอย่างครบถ้วน เช่น
- มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต (น้ำตาลแลคโตส) วิตามิน และแร่ธาตุในสัดส่วนที่พอเหมาะ ย่อยง่าย และดูดซึมได้ดี
- อุดมไปด้วยสารภูมิต้านทาน และเม็ดเลือดขาว ซึ่งช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร และโรคภูมิแพ้ต่างๆ
- มีกรดไขมันสำคัญ เช่น DHA และ ARA รวมถึงสารอาหารอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารก
สารอาหารในนมแม่
น้ำนมแม่จะเปลี่ยนไปตามระยะเวลาความต้องการของทารกในแต่ละช่วง ได้แก่
- ระยะหัวน้ำนม หรือ น้ำนมเหลือง เป็นน้ำนมแรกที่มาในช่วง 1-3 วันแรกหลังคลอด มีสีเหลืองเข้ม อุดมไปด้วยโปรตีนปริมาณสูง สร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ระยะน้ำนมปรับเปลี่ยน จะผลิตขึ้นมาช่วง 5-14 วันหลังคลอด น้ำนมจะมีสีขาวชุ่น มีสารอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กมากขึ้น
- น้ำนมระยะหลัง จะผลิตขึ้นมาช่วงหลัง 2 สัปดาห์ไปแล้ว มีปริมาณมากขึ้นและสมดุลสารอาหารเหมาะกับการเจริญเติบโตระยะยาว ได้แก่ โปรตีน ไขมัน น้ำตาลแลคโตส รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ
ประโยชน์ของนมแม่
กินนมแม่ ยิ่งนาน ยิ่งดี ทั้งนี้เด็กที่กินนมแม่จะมีระดับ IQ เฉลี่ยสูงกว่าเด็กที่กินนมผสม 7-10 จุด โดย
- เด็กที่กินนมแม่นาน 1 เดือน มีระดับ IQ อยู่ที่ 99.4 จุด
- เด็กที่กินนมแม่นาน 2-3 เดือน มีระดับ IQ อยู่ที่ 101.7 จุด
- เด็กที่กินนมแม่นาน 4-6 เดือน มีระดับ IQ อยู่ที่ 102.3 จุด
- เด็กที่กินนมแม่นาน 7-9 เดือน มีระดับ IQ อยู่ที่ 104 จุด
ซึ่งนมแม่อุดมไปด้วยสารอาหารครบถ้วนมากกว่า 300 ชนิด นอกจากนี้ในน้ำนมแม่ยังมีสารทำลายเชื้อโรค ย่อยง่าย ดูดซึมได้ดี ถ่ายสะดวก ท้องไม่ผูก ที่สำคัญคือ นมแม่มีภูมิคุ้มกันโรค ช่วยป้องกันการเจ็บป่วยหลายชนิด ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อภาวะภูมิแพ้ เมื่อเทียบทารกที่กินนมผสมกับทารกที่กินนมแม่ พบว่าลดโอกาสเกิดโรคต่าง ๆ ดังนี้
- ช่วยลดอัตราการเกิดโรคลำไส้อักเสบได้ถึง 20 เท่า
- ช่วยลดอัตราการเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ถึง 3.8 เท่า
- ช่วยลดอัตราการเกิดโรคท้องเสีย ปอดบวมได้ถึง 3.5-4.9 เท่า
- ช่วยลดอัตราการเกิดหูชั้นกลางอักเสบได้ถึง 3-4 เท่า
- ช่วยลดอัตราการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ถึง 2.7เท่า
- ช่วยลดอัตราการเกิดโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบได้ถึง 2.6-5.5 เท่า
- ช่วยลดอัตราการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ได้ถึง 2-4 เท่า
หลักการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- ดูดเร็ว โดยหลังคลอดพยาบาลจะส่งลูกเข้าเต้าให้เร็วที่สุดภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังคลอด ก้จะทำให้น้ำนมมาเร็วขึ้น
- ดูดบ่อย โดยให้ลูกดูดนมแม่บ่อยๆ 8-12 ครั้ง/วัน หรือทุก 2-3 ชั่วโมง
- ดูดนาน โดยให้ลูกดูดนมแม่นานเต้าละ 15-20 นาที
- ดูดให้เกลี้ยงเต้า ให้ลูกดูดนมจากเต้าข้างหนึ่งจนกระทั่งรู้สึกว่าเต้านมนิ่มลง หรือให้ลูกดูดจนกว่าเขาจะปล่อยเอง ก่อนจะเปลี่ยนไปให้อีกข้าง เพื่อระบายน้ำนมออกจากเต้าจนเกือบหมด เป็นกลไกสำคัญที่สุดในการกระตุ้นให้เต้านมผลิตน้ำนมใหม่เข้ามาทดแทนในปริมาณที่มากขึ้นและเร็วขึ้น
- ดูดให้ถูกวิธี จะมีท่าให้นมอยู่ 4 ท่า ได้แก่ 1. ท่านอนขวางบนตักแม่ ศีรษะลูกอยู่บนข้อศอกแม่ 2. ท่านอนขวางบนตัก ใช้ฝ่ามือประคองศีรษะลูก 3. ท่าอุ้มด้านข้าง และ4. ท่านอน
การเข้าเต้านมที่ถูกต้อง
- ปากทารกอ้ากว้าง
- ริมฝีปากล่างบานออก
- คางสัมผัสเต้านมแม่
- มองเห็นลานเต้านมด้านบนเหนือปากทารกมากว่าด้านล่าง
วิธีสังเกตว่าลูกได้รับน้ำนมอย่างเพียงพอแล้ว
- ขณะลูกดูดนม จะได้ยินเสียงกลืนนมของลูก
- เต้านมตึงก่อนให้นมและนิ่มหลังลูกดูดอิ่ม
- แม่รู้สึกมีน้ำนมไหลออกมา
- ลูกปัสสาวะ 6 ครั้งใน 24 ชั่วโมง
- ลูกถ่ายอุจจาระ 4-8 ครั้งใน 24 ชั่วโมง
- แรกเกิด 3 วันแรก ถ่ายอุจจาระเป็นสีเทาหรือสีดำ
- หลัง 3 วันลูกถ่ายเป็นเนื้อเละๆ นิ่มๆ สีเหลือง
- ลูกสงบสบาย พักหลับได้ไม่ร้องกวน
- หลังคลอดวันที่ 3 ลูกเจริญเติบโตดี แข็งแรง น้ำหนักขึ้นดีอยู่ในเกณฑ์ปกติ
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกน้อยจะได้รับตั้งแต่วันแรก เพราะนมแม่มีสารอาหารครบถ้วน และเต็มไปด้วยภูมิคุ้มกัน ความรัก และความอบอุ่นที่ไม่มีสิ่งใดทดแทนได้ การให้ลูกดูดนมแม่อย่างสม่ำเสมอ ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและอารมณ์ได้อย่างสมบูรณ์
นพ.ศราวุธ ตั้งมานะกุล
กุมารเวชศาสตร์/กุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด
ศูนย์สุขภาพเด็ก
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์บริการทางการแพทย์ด้านนมแม่, ศูนย์สุขภาพเด็ก
