รู้สึกหัวใจเต้นสะดุด เสี่ยงเป็นหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC
ศูนย์ : ศูนย์หัวใจ
บทความโดย : พญ. พัชรี ภาวศุทธิกุล

ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC ถือได้ว่าเป็นหนึ่งประเภทของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ที่อาจส่งผลให้ใจสั่น วูบ หรือรู้สึกหวิวๆ กระทบต่อการชีวิตประจำวันได้ ในรายที่เป็นรุนแรงอาจมีอาการเป็นลม หมดสติ บางรายอาจมีอาการเหนื่อยง่าย หรือเจ็บหน้าอก ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC สามารถรักษาได้ด้วยยา หรือการจี้ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ซึ่งจะทำให้หายเป็นปกติได้
สารบัญ
- ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC เป็นอย่างไร
- ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC
- อาการที่เกิดขึ้นได้
- ตรวจวินิจฉัยได้อย่างไร
- การรักษาภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC
- วิธีการรักษาด้วย...การจี้หัวใจ
- รูปแบบของการจี้ไฟฟ้าหัวใจรักษาภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC ได้แก่
- การป้องกันภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC เป็นอย่างไร
ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC หรือ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด PVC (Premature ventricular contraction) เกิดจากหัวใจห้องล่างเกิดการบีบตัวก่อนเวลาที่ควรจะเป็น โดยปกติการการเต้นของหัวใจจะเกิดขึ้นจากกระแสไฟฟ้าที่ผลิตออกมาจากเนื้อเยื่อพิเศษที่หัวใจห้องบน (SA node) แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้ากระตุ้นมายังหัวใจห้องล่างจนเกิดการบีบตัวของหัวใจ นั่นคือ การเต้นของหัวใจนั่นเอง โดยทั่วไปแล้วเมื่อหัวใจห้องล่างโดนกระตุ้นไปแล้วจะต้องรอกระแสไฟฟ้ารอบใหม่จากหัวใจห้องบน (SA node) ในระหว่างที่รอนั่นเอง กลับมีระแสไฟฟ้าแปลกปลอมที่ไม่ได้มาจากหัวใจห้องบน แต่มาจากหัวใจห้องล่างแทน ทำให้หัวใจถูกกระตุ้นให้มีการบีบตัวหรือเต้นก่อนเวลาที่ควรจะเป็น
ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC
ปัจจัยที่ทำให้ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC หรือ หัวใจเต้นผิดปกติชนิด PVC มีความแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ประวัติสุขภาพ และปัจจัยแวดล้อม รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ ได้แก่
- ความผิดปกติแต่กำเนิดหรือความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด ลิ้นหัวใจรั่ว ผนังหัวใจหนาผิดปกติ หลอดเลือดหัวใจตีบ
- ความผิดปกติของร่างกายที่มีผลต่อการทำงานของหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
- ยาและสารบางชนิด เช่น ยาที่มีส่วนประกอบของแอมเฟตามีน คาเฟอีนที่อยู่ในชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม
- ความเครียดและความวิตกกังวล การพักผ่อนไม่เพียงพอ
อาการที่เกิดขึ้นได้
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยภาวะภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC มักไม่ทราบว่าตนเองมีปัญหา โดยมักพบภาวะนี้จากการตรวจสุขภาพหรือเมื่อป่วยด้วยโรคอื่นแล้วมาพบแพทย์ แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปรากฏให้สังเกตได้ เช่น
- ใจสั่นเหมือนหัวใจจะกระโดด
- หัวใจเต้นสะดุด เต้นไม่สม่ำเสมอ
- หัวใจเต้นแรง
- เจ็บหน้าอก
- หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม
- อ่อนเพลียไม่มีแรง

ตรวจวินิจฉัยได้อย่างไร
โดยเบื้องแพทย์จะวินิจฉัยจากอาการของผู้ป่วย ประวัติทางการแพทย์ และการตรวจร่างกาย เพื่อตรวจสอบจังหวะการเต้นของหัวใจเบื้องต้น หรืออาจทดสอบเพื่อหาปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น โรคหัวใจ ปัญหาการทำงานของต่อมไทรอยด์ เป็นต้น และตรวจพิเศษอื่นๆ ได้แก่ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Elektrokardiogram: EKG) เพื่อการทดสอบจังหวะการเต้นและกิจกรรมทางไฟฟ้าของหัวใจ ระหว่างการตรวจจะมีการติดเซนเซอร์บนผิวหนังเพื่อตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าที่มาจากการเต้นของหัวใจในแต่ละครั้ง ซึ่งสัญญาณเหล่านี้จะถูกบันทึกโดยเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และสามารถพิมพ์ออกมาในรูปแบบกระดาษได้ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการวินิจฉัยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะโดยเฉพาะเมื่อตรวจในขณะมีอาการ
ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC อาจพบได้ในคนปกติทั่วไปโดยไม่มีอาการแสดง หรือ มีอาการแต่มาตรวจหลังจากมีอาการแล้วทำไห้ตรวจไม่พบความผิดปกติ แพทย์จะทำการตรวจและบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจโดยใช้ Holter Monitor เป็นการติดเครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 24 ชม. ไว้กับตัว เพื่อเก็บบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ ทำให้แพทย์เห็นว่ามันมีหัวใจเต้นผิดจังหวะในช่วงใดบ้าง
การรักษาภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC
ในบางรายที่อาการยังเป็นไม่มาก กล่าวคือ ยังไม่ได้มีหัวใจเต้นผิดจังหวะจนทำให้เกิดอาการของหัวใจวายหรือหัวใจขาดเลือด คือมีแค่ใจสั่นๆ เป็นบางเวลาอันนี้แพทย์จะแนะนำให้ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือชากาแฟ ควบคุมความเครียดและลดการกังวล ถ้าเป็นมากขึ้นอาจจะต้องใช้ยาเพื่อลดอันตราการเต้นของหัวใจร่วมด้วย เช่น ยาในกลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์ (betablocker) หากเป็นมากจนกินยาก็ยังคุมไม่อยู่จะใช้วีรักษาด้วยการจี้ด้วยไฟฟ้าผ่านคลื่นเสียงความถี่สูง (Electro Physiologic Study and Radiofrequency Ablation) ทำลายหัวใจส่วนที่เต้นผิดจังหวะ
วิธีการรักษาด้วย...การจี้หัวใจ
การจี้ด้วยไฟฟ้าผ่านคลื่นเสียงความถี่สูงนั้น จะกระทำได้โดยการสวนสายสวนหัวใจ จากบริเวณขาหนีบ หลังจากฉีดยาชาเฉพาะที่ (เช่นเดียวกับการตรวจสวนหัวใจเพื่อดูเส้นเลือดหัวใจโดยการฉีดสี) สายสวนหัวใจชนิดพิเศษดังกล่าวจะมีขั้วโลหะที่ส่วนปลาย จึงสามารถบันทึกกระแสไฟฟ้าในหัวใจ แสดงให้เห็นบนจอ Monitor ซึ่งแพทย์จะขยับสายสวนหัวใจดังกล่าวไปยังตำแหน่งต่างๆ ของหัวใจ เพื่อหาตำแหน่งของวงจรไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกติ อาจทำร่วมกับการกระตุ้นหัวใจช่วงสั้นๆ เมื่อพบตำแหน่งแล้ว จะส่งคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังตำแหน่งดังกล่าวเป็นระยะเวลา 30 – 60 วินาที คลื่นเสียงความถี่สูงดังกล่าวจะทำให้เกิดความร้อนขึ้นที่ปลายสายสวนหัวใจ ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นจาก 37 องศา เป็น 55 องศา ซึ่งเท่ากับอุณหภูมิของน้ำอุ่น
การรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะโดยวิธีดังกล่าวได้ผล 95% โดยมีผลแทรกซ้อนน้อยกว่า 1% เช่น หัวใจทะลุ ลิ่มเลือดไปอุดเส้นเลือดที่ปอด เกิดลิ่มเลือดบริเวณที่เจาะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ แต่น้อยและยังไม่เคยเกิดขึ้น และใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลเพียง 1 คืนหลังจากทำเสร็จ หลังจากนั้นก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
รูปแบบของการจี้ไฟฟ้าหัวใจรักษาภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ชนิด PVC ได้แก่
- การจี้ไฟฟ้าหัวใจ 3 มิติ แบบ CARTO (CARTO System) เป็นการหาตำแหน่งจุดกำเนิดไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกติแสดงผลเป็นภาพ 3 มิติ แบบเรียลไทม์ และใช้สายสวนจี้ตรงจุดที่ผิดปกติ ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง
- การจี้ไฟฟ้าหัวใจ 3 มิติ แบบเย็นจัด (Cryoablation) เป็นการใช้พลังงานความเย็น เพื่อจี้ทำลายวงจรที่ผิดปกติแทนพลังงานความร้อน ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบข้าง ไม่มีอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการอักเสบของเนื้อเยื่อภายใน และระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาลดลง
การป้องกันภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจไม่สามารถป้องกันได้เสมอไป แต่สามารถลดโอกาสเกิดให้น้อยลงได้ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความเครียด การสูบบุหรี่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ตรวจสุขภาพและพบแพทย์สม่ำเสมอ
ผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะควรมีการดูแลรักษาตนเอง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทั้งนี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการใจสั่นมาก รู้สึกเป็นตลอดเวลา เจ็บแน่นหน้าอก เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วไม่ส่งผลต่ออันตราย
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์หัวใจ