โรคติดเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (hMPV) เชื้อที่ระบาดช่วงหน้าฝน ทำปอดอักเสบ
ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพเด็ก
บทความโดย : พญ. ธิดารัตน์ แก้วเงิน
โรคติดเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (hMPV) เป็นอีกหนึ่งไวรัสที่ก่ออาการในระบบทางเดินหายใจ และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดปอดอักเสบในเด็กเล็ก การติดเชื้อนี้มักพบในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี โรคนี้ยังไม่มียารักษาส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาตามอาการ ฉะนั้นหากลูกมีอาการไอ หอบเหนื่อย เป็นหวัด มีน้ำมูก ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อและทำการรักษาอย่างทันท่วงที
สารบัญ
เชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัสคืออะไร
เชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (Human metapneumovirus: hMPV) คือ ไวรัสชนิดหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับ RSV ที่ทำให้เกิดอาการติดเชื้อในทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน ซึ่งมักพบการระบาดในช่วงปลายฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว คือตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ส่วนใหญ่พบในกลุ่มเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ ในผู้ใหญ่และเด็กโต ที่มีภูมิต้านทานดีหากติดเชื้อนี้ อาจจะมีอาการเหมือนแค่เป็นหวัดธรรมดา หรือไม่มีอาการก็ได้ โดยเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส สามารถติดต่อกันผ่านทาง น้ำมูก น้ำลาย ไอ หรือจาม
อาการของผู้ที่ติดเชื้อไวรัส hMPV
ในเด็กส่วนใหญ่จะมีอาการไอ น้ำมูก มีไข้ 50-80% บางรายมีเจ้บคอ เสียงแหบ ไอก้องได้ และเกิดปอดอักเสบได้
การตรวจวินิจฉัยและรักษา
การตรวจหาเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส ทำได้โดยวิธีการ swab ป้ายจมูกแล้วส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่นเดียวกับการตรวจหาเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และ RSV ด้านการรักษานั้น เนื่องจากโรคเชื้อไวรัส hMPV ยังไม่มียารักษา จะรักษาแบบประคับประคองตามอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก ในรายที่เป็นมากมีปัญหาปอดอักเสบหรือเกิดอาการหอบรุนแรง จำเป็นต้องรักษาในโรงพยาบาลเพื่อพ่นยา เคาะปอด ดูดเสมหะ ให้สารน้ำทางหลอดเลือด เป็นต้น
การป้องกันการติดเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันการติดเชื้อ hMPV การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงพาเด็กเล็กไปสถานที่ชุมชนที่มีคนเยอะ เลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วย การใส่หน้ากากอนามัย ไม่เอามือไปแคะจมูกหรือเอามือเข้าปาก และการล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อทางเดินหายใจ
ถ้อย่างไรก็ตามโรคติดเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (hMPV) เป็นโรคที่มีมานานแล้ว และมักเกิดกับเด็กเล็ก ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นที่ต้องเฝ้าระวังโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาว หรือหากมีอาการเข้าข่ายให้รีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อและทำการรักษาก่อนที่อาการมากขึ้น
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์สุขภาพเด็ก