Doctor Talk - ไวรัสตับอักเสบบี
ศูนย์ : ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ
โรคไวรัสตับอักเสบบี สามารถติดต่อกันได้จากเลือด ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจจะเลอะเลือด เช่น การใช้เข็มฉีดยา การให้เลือด การใช้ของมีคมที่อาจจะเลอะเลือด การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันซึ่งอาจจะทำให้มีเลือดปนได้ เป็นต้น
ทำความรู้จัก โรคไวรัสตับอักเสบบี
ไวรัสตับอักเสบบี เป็นปัญหาที่สำคัญในประเทศไทย พบได้ประมาณ 1-3% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ
- แบบเฉียบพลัน ซึ่งเป็นไวรัสตับอักเสบชนิดที่หายได้เองในช่วงระยะเวลาประมาณ 6 เดือน
- แบบเรื้อรัง ส่วนใหญ่จะติดจากแม่สู่ลูกขณะคลอด ซึ่งเชื้อจะสะสมอยู่ในร่างกาย ในตับ ทำให้เกิดตับอักเสบเรื้อรัง เมื่อพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นตับแข็ง และมีความเสี่ยงสำคัญในการเกิดโรคมะเร็งตับได้
อาการของโรคไวรัสตับอักเสบบี
หลังจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังไปนานๆ อาจทำให้เกิดภาวะต่างๆ ได้ดังนี้
- ตับแข็ง ผู้ที่เป็นจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต ขาบวม
- โรคมะเร็งตับ
สาเหตุของการติดเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบบี
ไวรัสตับอักเสบบี สามารถติดได้จาก
- จากแม่สู่ลูกขณะคลอด มักเกิดจากการที่คุณแม่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแต่ไม่ได้รับกาารักษา
- การติดจากทางเลือด คือ ติดจากการได้รับเลือดก่อนช่วงปี พ.ศ. 2530
- การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น การใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่น หรือการสักที่อาจจะใช้เข็มที่ไม่สะอาด มีเชื้อปนเปื้อนอยู่
- การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน ซึ่งอาจจะมีการปนเปื้อนเลือดและทำให้เกิดการรับเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้
ข้อปฏิบัติหากติดเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบบี
ในกลุ่มผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง สิ่งที่ควรต้องปฏิบัติคือ พบแพทย์สม่ำเสมอ ตรวจการทำงานของตับ ค่าพังผืดตับ ตรวจอัลตราซาวด์ตับตามเกณฑ์ เพื่อติดตามอาการและเฝ้าระวังการเกิดตับอักเสบ ตับวาย ภาวะตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ
ส่วนการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันนั้น ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตาปกติ ทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ออกกำลังได้ และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ตามปกติ แต่ให้หลีกเลี่ยง
- การใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่น
- งดบริจาคเลือด
- หากมีเพศสัมพันธ์ ควรป้องกันทุกครั้ง
- ในผู้ที่จะแต่งงาน ควรตรวจภูมิคุ้มกันโรคไวรัสตับอักเสบบีของคู่สมรสก่อนแต่งงาน เพื่อป้องกันติดเชื้อจากเรา
วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี
เมื่อเราได้รับการตรวจหาภูมิคุ้มกันโรคไวรัสตับอักเสบบีแล้วพบว่า ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคไวรัสตับอักเสบบี และไม่มีเชื้อ แนะนำว่าควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี หลังฉีดไปแล้ว 1 เดือน สามารถตรวจเช็คได้ว่าภูมิคุ้มกันของเราขึ้นหรือไม่ ซึ่งภูมิคุ้มกันนี้จะสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้ตลอดชีวิต
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ