หัวใจเต้นผิดจังหวะ รู้ได้ด้วยการบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 24 ชม.

ศูนย์ : ศูนย์หัวใจ

บทความโดย : พญ. พัชรี ภาวศุทธิกุล

หัวใจเต้นผิดจังหวะ รู้ได้ด้วยการบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 24 ชม.

การบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Holter Monitoring) เป็นการตรวจสุขภาพหัวใจที่ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจจับความผิดปกติของจังหวะการเต้นของหัวใจได้อย่างละเอียด โดยการติดเครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจขนาดเล็กไว้กับตัวผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจมากกว่านั้น ขณะที่ผู้ป่วยทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ โดยที่สามารถกลับไปพักที่บ้านหรือทำงานได้ตามปกติ ไม่ต้องเสียเวลานอนพักที่โรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตรวจวินิฉัยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เพราะอาการที่เกิดขึ้นมักเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่นานพอที่จะมาตรวจพบที่โรงพยาบาล


รู้จักการบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกติดตัว

การบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกติดตัว เป็นการตรวจติดตามภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ด้วยการติดเครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกติดตัว (Holter Monitoring) ตลอด 24 ชม. ไว้กับตัว โดยที่อุปกรณ์ประกอบด้วยกล่องที่มีขนาดเล็กสำหรับบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยที่เครื่องนี้จะเชื่อมต่อกับสายที่ยึดติดกับแผ่น Electrode ที่ติดบริเวณผิวหนัง เมื่อติดเครื่อง Holter Monitoring แล้วสามารถกลับไปพักที่บ้านหรือทำงานได้ตามปกติ ไม่ต้องเสียเวลานอนพักที่โรงพยาบาล และเมื่อครบกำหนด 24 ชม. แล้วจึงกลับมาถอดเครื่องคืนในวันถัดไป และรอรับทราบผลการตรวจวิเคราะห์จากแพทย์ การตรวจวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่อาจจะมีปัญหาใจสั่นผิดปกติเป็นประจำ หน้ามืด วูบ เป็นลมหมดสติ โดยไม่ทราบสาเหตุ

> กลับสารบัญ


เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Holter Monitoring) ใช้สำหรับอะไร?

  • ใช้สำหรับประเมินคลื่นไฟฟ้าหัวใจในผู้ป่วยที่มีอาการใจสั่น (Palpitation) หรือความรู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้นชั่วขณะ (Skipping)
  • ใช้สำหรับประเมินผู้ป่วยที่มาด้วยอาการหน้ามืดหรือเป็นลม เพื่อวินิจฉัยแยกโรคว่ามีสาเหตุจากโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือไม่
  • ใช้สำหรับประเมินอัตราการเต้นเฉลี่ยของชีพจร และการตอบสนองของการเต้นของชีพจรใน ขณะที่คุณกำลังทำกิจกรรมต่างๆ
  • ใช้สำหรับประเมินประสิทธิภาพหลังการรักษาทั้งจากการรักษาด้วยยาหรือการรักษาด้วยการทำหัตถการ

> กลับสารบัญ


ปรึกษาแพทย์ออนไลน์

ข้อดีของการตรวจ Holter Monitoring

  • ตรวจพบความผิดปกติได้แม่นยำเนื่องจากบันทึกการทำงานของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง
  • สะดวกสบายผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
  • ช่วยวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อทราบสาเหตุของอาการแล้ว แพทย์สามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้

> กลับสารบัญ

ขั้นตอนและข้อปฏิบัติตัวขณะติดเครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

  • เจ้าหน้าที่จะทำการติดแผ่นอิเลกโทรด (Electrode) ที่บริเวณหน้าอกของผู้ป่วย สำหรับคุณผู้ชายหากบริเวณหน้าอกมีขนค่อนข้างมากอาจจะต้องขออนุญาตทำการโกนขนบริเวณหน้าอกออกบางส่วน เพื่อทำให้ติดแผ่น Electrode ให้แนบกับผิวหนังหน้าอกได้ดียิ่งขึ้นและบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากนั้นจะทำการติดเครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Holter Monitoring) พร้อมทั้งคำแนะนำการปฏิบัติตัว และการดูแลรักษาเครื่องขณะทำการตรวจ
  • ผู้ที่ติดเครื่อง Holter สามารถทำงานหรือกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ได้ตามปกติยกเว้นห้ามอาบน้ำ ว่ายน้ำ หรือทำให้เครื่องและบริเวณที่ติดสายและขั้วต่อเปียก ห้ามออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวของแขนมาก ห้ามทำการ X-Ray ในขณะที่ยังติดเครื่องอยู่ หลีกเลี่ยงการอยู่บริเวณที่มีสายไฟแรงสูง หรือบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าหรือบริเวรที่มีเครื่องตรวจจับโลหะ
  • สามารถนำเครื่อง Holter ใส่กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกงไว้ได้ แต่จะใส่กระเป๋าและเข็มขัดไว้ให้แล้วอย่างเรียบร้อย สามารถสะพายติดตัวไว้ได้ แต่ห้ามทำเครื่องตก
  • ที่ตัวเครื่องจะมีปุ่มสำหรับใช้กดเมื่อรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น
  • เมื่อครบกำหนด 24 ชม.จึงกลับมาถอดเครื่องคืนในวันถัดไป เพื่อรับผลวินิจฉัย

> กลับสารบัญ



เนื่องจากอาการของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภท ความรุนแรง หรือความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ บางรายอาจไม่พบอาการหรือความผิดปกติใดๆ แต่บางรายอาจมีอาการที่สังเกตได้ การบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Holter Monitoring เป็นการตรวจที่ปลอดภัยและไม่มีความเจ็บปวด ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติของหัวใจได้อย่างแม่นยำ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม หากมีอาการผิดปกติหรือสงสัยว่าตนเองมีอาการของภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ ทั้งนี้สามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลจากแพทย์ออนไลน์ได้เลย ที่นี่



ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย





Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย