โรคไส้ติ่งอักเสบ เป็นการบวมและอักเสบติดเชื้อของไส้ติ่ง ที่อยู่ตำแหน่งท้องน้อยด้านขวา เกิดจากการอุดตันของไส้ติ่งจนมีภาวะอักเสบ จากของเสีย สิ่งแปลกปลอม หรืออุจจาระที่เคลื่อนลงไปอุดตันในไส้ติ่ง เกิดการอักเสบในที่สุด โรคไส้ติ่งอักเสบทำให้เกิดอาการปวดท้องเฉียบพลัน และรุนแรง และเมื่อไส้ติ่งอักเสบมาก จะทำให้ไส้ติ่งแตก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ฉะนั้นมาทำความเข้าใจกันดีกว่าว่าลักษณะอาการปวดท้องแบบไหน บ่งบอกว่าคุณมีภาวะ ไส้ติ่งอักเสบแล้ว
สารบัญ
อาการเริ่มต้นของไส้ติ่งอักเสบ
อาการเริ่มต้นของไส้ติ่งอักเสบ มักเป็นอาการปวดท้อง ท้องอืด และจุกแน่นท้อง โดยการวินิจฉัยโรคในระยะแรกนั้น อาจเป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือลำไส้อักเสบได้ ซึ่งอาการเริ่มแรกเหมือนกัน หากปวดแล้วไม่หาย ให้งดน้ำงดอาหารไว้ก่อนและรีบมาพบแพทย์ทันที
เช็คด่วน ปวดท้องแบบไหน ไส้ติ่งอักเสบ รีบพบแพทย์
- ปวดท้องทั่ว ๆ แล้วย้ายจุดปวด ไปที่ท้องน้อยด้านขวา
- ปวดท้องน้อยด้านขวา ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือถ่ายเหลว
- ปวดท้องน้อยด้านขวามาก ไม่ดีขึ้น
- ปวดท้องน้อยด้านขวา และมีไข้
ไส้ติ่งอักเสบ รักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้องไส้ติ่ง
ไส้ติ่งอักเสบ เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรักษาโดยผ่าตัดเพียงวิธีเดียว โดยปัจจุบันมีเทคโนโลยีการผ่าตัดส่องกล้องไส้ติ่ง โดยแพทย์จะเจาะหน้าท้องบริเวณสะดือ แล้วสอดอุปกรณ์เข้าไป จากนั้นก็ตัดไส้ติ่งที่อักเสบเป็นหนอง ใส่ในถุงเก็บชิ้นเนื้อ แล้วนำออกมาทางรูแผลที่เจาะประมาณ 1 ซม. ดังนั้นส่วนที่เป็นหนองจะอยู่ในถุงเก็บชิ้นเนื้อ จะไม่เลอะแผลผ่าตัด สะอาด ปลอดภัย
ข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้อง
- ลดอัตราการบาดเจ็บต่ออวัยวะ
- ลดเวลาในการผ่าตัด
- แผลมีขนาดเล็ก เพีบง 1 ชม.
- เจ็บแผลน้อย
- ลดภาวะอาการแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด
- ช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวได้เร็ว
- ใช้เวลาพักฟื้นไม่นานเพียง 1-2 วัน ก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
เมื่อมีอาการปวดท้องที่อาจมาจากโรคไส้ติ่งอักเสบ ควรรีบมาพบแพทย์โดยด่วน เพราะโรคไส้ติ่งอักเสบ ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน หากไส้ติ่งอักเสบมาก จนไส้ติ่งแตก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ สามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลจากแพทย์ออนไลน์ได้เลย
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์ศัลยกรรม