โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ คัน เคืองตาเรื้อรัง

ศูนย์ : ศูนย์จักษุ

บทความโดย :

โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้  คัน เคืองตาเรื้อรัง

โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic conjunctivitis) เกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่แพ้ เป็นภาวะที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อที่ด้านในของเปลือกตาบนและล่างและเยื่อบุด้านนอกของตาขาว ซึ่งสาเหตุของภาวะเยื่อบุตาอักเสบ อาจจะเกิดจาก การติดเชื้อจากเชื้อโรคต่างๆ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย หรือเกิดจากภูมิแพ้ก็ได้


โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้เกิดขึ้นได้อย่างไร

อาการทางภูมิแพ้มักจะเกิดที่ตาเนื่องจากตาเป็นอวัยวะที่มีเลือดไปเลี้ยงมาก เส้นเลือดเหล่านี้ตอบสนองต่อสารภูมิแพ้ได้ง่าย และที่สำคัญตาสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอก เมื่อคุณได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่น เกสรดอกไม้ ฝุ่น รังแคสัตว์ ยา ควันบุหรี่ สารภูมิแพ้เหล่านั้นจะละลายในน้ำตา และกลับสู่เยื่อบุตาซึ่งจะสร้างสารต่อต้านสารภูมิแพ้ที่เรียกว่า Antibody IgE เมื่อภูมิจับกับ antibody จะเกิดการหลั่งสารหลายอย่างทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ขึ้นตาของคุณ ก็จะมีอาการเคือง แดง และมีน้ำตาไหล

> กลับสารบัญ


ชนิดของเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้

  1. ภูมิแพ้ขึ้นตาตามฤดูกาล (Seasonal allergic conjunctivitis) เป็นเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ที่พบได้บ่อย มักจะมีอาการน้ำมูกไหลร่วมด้วยอาการที่สำคัญ คือ มีน้ำตาไหลเคืองตา มักจะเป็นกับตาสองข้าง อาการจะเป็นตามฤดูกาลหรือช่วงเวลาที่มีฝุ่นละอองมาก มักแพ้เกสรหญ้า เกสรดอกไม้ ซึ่งแตกต่างกันไปตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และสภาพอากาศในแต่ละวัน
  2. ภูมิแพ้ขึ้นตาที่เป็นตลอดทั้งปี (Perennial allergic conjunctivitis) เป็นการเกิดภูมิแพ้ที่เกิดจากสารภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นตลอดปีพบได้น้อยกว่าชนิดแรก อาการมักจะน้อยกว่าชนิดแรก
  3. Atopic Keratoconjunctivitis เป็นการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุตาและเปลือกตาหรือแก้ม มักจะพบร่วมกับผื่น atopic ของผิวหนังที่หนังตา และหน้าอาการที่พบร่วมคือ ตาแดง เคืองตา คัน น้ำตาไหล สัมพันธ์กับไรฝุ่น ขนสัตว์
  4. ภูมิแพ้ขึ้นตาเฉียบพลัน (Acute Allergic Conjunctivitis) จะเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยได้รับสารก่อภูมิแพ้ในเวลาไม่นาน มักทำให้ดวงตามีสีแดง คัน น้ำตาไหล และเปลือกตาบวม หรืออาจมีอาการน้ำมูกไหลร่วมด้วย

> กลับสารบัญ


ลักษณะสำคัญที่บ่งบอกเยื่อบุตาอักเสบเกิดจากภูมิแพ้

  • อาการคันในตาเป็นอาการที่สำคัญหากติดเชื้อจะเป็นอาการปวดแสบร้อน
  • น้ำตาจะเป็นน้ำใส หากติดเชื้อจะเป็นเมือก หรือหนองมักจะมีการอักเสบของเปลือกตา
  • อาการอื่นๆ เช่น ตาแดง มีขี้ตาใส ตาสู้แสงไม่ได้ เปลือกตาบวม เคืองตา
  • ผู้ป่วยมีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว

> กลับสารบัญ


การป้องกันเยื่อบุตาอักเสบเกิดจากภูมิแพ้

ควรจะหลีกเลี่ยงจากสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น หรือ ละอองเกสรดอกไม้ รวมถึงหลีกเลี่ยงการเผชิญกับลมที่พัดแรง เพราะลมอาจพัดพาฝุ่น หรือ ละอองเกสรดอกไม้ มากระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ อาจใส่แว่นกันลมที่ปิดด้านหน้าและด้านข้าง เพื่อป้องกันดวงตาไม่ ให้โดนสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ รวมทั้งการล้างมือ อาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อกลับเข้าที่พักอาศัยแล้วเสมอ การหลีกเลี่ยงใช้พรมในบ้าน เนื่องจากพรมจะกักเก็บฝุ่นไว้ในปริมาณมาก และเลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยงที่มีขน เช่น แมว สุนัข เป็นต้น

> กลับสารบัญ


การดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการเคืองตาและสงสัยว่าเกิดจากภูมิแพ้

ควรจะหลีกเลี่ยงจากสิ่งก่อภูมิแพ้ทันทีบางครั้งอาจจะต้องใช้น้ำสะอาดล้างตาอาจจะใช้น้ำตาเทียมซึ่งจะช่วยชะล้างสารก่อภูมิแพ้ใช้ผ้าเย็นปิดตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงมากขึ้น และยิ่งทำให้เกิดอาการคันมากขึ้น เพื่อลดอาการบวมอาจจะซื้อยาแก้แพ้รับประทาน หากดูแลตัวเองแล้วยังไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์ทันทีเมื่อเกิดอาการต่อไปนี้

  • ดวงตาแดงก่ำมากขึ้น
  • เจ็บปวดรุนแรงบริเวณดวงตา
  • มีตุ่ม หรือแผลพุพองบริเวณดวงตา เปลือกตา หรือจมูก
  • รู้สึกเจ็บปวดบริเวณดวงตาเมื่อถูกแสงแดดและแสงไฟ
  • ความสามารถในการมองเห็นลดลง

> กลับสารบัญ


ในด้านการรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Conjunctivitis) นั้นจักษุแพทย์จะเลือกใช้ยาให้เหมาะสมกับอาการและความรุนแรงของโรค ซึ่งมีทั้งยาหยอดตา เช่น ประเภทแอนตี้ฮิสตามีน ประเภทป้องกันปฏิกิริยาภูมิแพ้ และยารับประทาน นอกจากการใช้ยาจะช่วยเสริมการรักษาด้วยยาได้ ได้แก่ การหยอดน้ำตาเทียมเย็นๆ ซึ่งจะช่วยเจือจางสารก่อการแพ้ และการประคบเย็นก็จะช่วยลดการบวมได้



ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย





Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย