eLos Plus Super Triniti เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาสภาพผิว
ศูนย์ : ศูนย์ผิวหนังและความงาม
บทความโดย : พญ. ศิเรมอร ทองสิมา
จากปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ มีริ้วรอย กระ ฝ้า หลุมสิว ใบหน้าไม่กระชับ หรือรอยแดงจากสิว ทำให้คุณหมดความมั่นใจ ฟังทางนี้ ด้วยเทคโนโลยีสุดทันสมัยอย่าง eLos Plus Super Triniti จะมาเป็นตัวช่วยให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป กับนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของคุณ ทั้งหลุมสิว ฟื้นฟูผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลบเลือนเม็ดสี เส้นเลือด ทำให้มีผิวหน้าที่สวย กระจ่างใส กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง
eLos Plus คืออะไร
เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาสภาพผิว โดยอาศัยหลักการของ eLos Technology ซึ่งเป็นการรวมเอาพลังงาน 2 ชนิดเข้าด้วยกัน ได้แก่ พลังงานแสงเลเซอร์ ร่วมกับคลื่นวิทยุ RF โดยที่ขั้วของ RF แบบ 2 ขั้ว (Bi-polar RF) จะเป็นขั้วเย็น (Contact Cooling) เพื่อปกป้องผิวด้านบนให้ปลอดภัย ซึ่งได้ผลการรักษาที่ดีกว่าใช้พลังงานแสงหรือ RF เดี่ยวๆ โดยตัวเครื่องประกอบด้วยฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ดังนี้
Super SR Applicator
ฟื้นฟูผิวให้กลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง พลังงานแสงความเข้มสูง (IPL) ที่มีความยาวคลื่น 580-980 นาโนเมตร ทำงานร่วมกับคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) เพื่อทำลายเม็ดสีที่มีความผิดปกติช่วยฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์ (Skin Rejuvenation) แก้ปัญหาต่างๆของผิวพรรณ ดังนี้
Super SR Applicator รักษาในเรื่องใดบ้าง
ปรับสีผิวที่ไม่เรียบและไม่สม่ำเสมอ (Poikiloderma & Dyschromia) ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส ลบเลือนจุดด่างดำ เช่น เม็ดสีคล้ำ (Hyperpigmentation), ผิวตกกระจากแสงแดด (Lentigines) นอกจากนี้ยังช่วยให้ฝ้าจางลง ในกรณีที่เป็นฝ้าตื้นช่วยแก้ปัญหาที่เกิดความผิดปกติของเส้นเลือดบนใบหน้า เช่น รอยแดง (Erythema), รอยแดงจากสิว (Rosacea), มีเส้นเลือดฝอยผิดปกติ (Telangiectasia)
ต้องเข้ารับการรักษานานแค่ไหน
ระยะแรกแนะนำให้ทำติดต่อกันประมาณ 3-5 ครั้ง ทุก 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล
Hight Power Sublime
ทางเลือกใหม่ของผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าโดยไม่เจ็บ เพียงครั้งแรกที่รักษาจะเห็นว่าผิวตึงกระชับขึ้นทันทีการใช้แสงอินฟราเรด (IR) ที่มีความยาวคลื่น 700-2000 นาโนเมตร ร่วมกับคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) โดยอาศัยสองพลังงานร่วมกันเพื่อให้กระตุ้นให้เกิดการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวตึงกระชับ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ โดยที่คนไข้ จะรู้สึกอุ่นๆใต้ผิวเท่านั้นและไม่มีความรู้สึกเจ็บ
Hight Power Sublime รักษาในเรื่องใดบ้าง
ยกกระชับใบหน้าและลำคอ (Skin Tightening) สามารถยกกระชับ ร่องแก้ม ถุงใต้ตา หางตา หน้าผาก คาง คอ และสามารถใช้ได้ดีในทุกสีผิวคนไข้ (All skin type)
ต้องเข้ารับการรักษานานแค่ไหน
ระยะแรกแนะนำให้ทำติดต่อกันประมาณ 3-5 ครั้ง ทุก 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล
Motif IR Applicator
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวตึง เรียบเนียนโดยไม่เกิดผลข้างเคียง Motif IR เป็นการปล่อยพลังงาน Diode Laser ที่มีความยาวคลื่น 915 นาโนเมตร ในรูปแบบของ Fractional ทำให้ลำแสงของ Diode Laser ออกมาเป็นจุดเล็กๆเมื่อรวมตัวกับคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) จะทำให้เกิดความร้อนลึกลงไปในผิวหนังชั้นล่างเรียกว่า Matrix Heat Bands พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้น จะมีผลกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวมีความตึงตัว เรียบเนียนขึ้น โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิวด้านบน โดย Motif IR จะสามารถใช้งานได้ 2 Mode ดังนี้
- IR mode เหมาะสำหรับริ้วรอยร่องลึก (Deep Wrinkle) เช่น ริ้วรอยใต้ตา หางตา ร่องแก้มตื้นขึ้น ลดรอยแผลเป็น หลุมสิว (Acne scar) รูขุมขนกว้างมากๆ
- Motif mode เหมาะสำหรับริ้วรอยตื้นๆ (Fine line) ทำให้ผิวเรียบเนียน (Skin smoother) ช่วยยกระชับรูขุมขน
Motif IR Applicator รักษาเรื่องใดบ้าง
กระบวนการสร้างคอลลาเจนจะใช้เวลา อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ โดยผลการรักษาจะค่อยๆเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากทำเสร็จสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แนะนำให้ทำติดต่อกันประมาณ 4-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน โดยทำห่างกันทุก 3-4 สัปดาห์
Sublative Rejuvenation
เป็นการปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ในรูปแบบของ Fractional ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนเพียงเล็กน้อย(low epidermal disruption) ในขณะที่พลังงานสามารถลงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังชั้นล่างได้มาก (high dermal impact) ระยะพักฟื้นน้อย (minimal downtime) ทำให้ริ้วรอย (wrinkle) และหลุมสิว (acne-scar) ตื้นขึ้น รูขุมขน (pore size) กระชับขึ้น ผิวเรียบเนียนตึงกระชับ ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น มากกว่าเลเซอร์ชนิดที่ไม่ทำให้เกิดแผล มีความปลอดภัย สามารถทำได้ในทุกสีผิว โดยตัวเครื่องจะปล่อยพลังงานผ่านหัวทิปทองคำ (disposable tip) ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
ภาพเปรียบเทียบแสดงผลการปล่อยพลังงานของ Fractional ทั่วไป และ Sublative RejuvenationTM
ลักษณะการปล่อยพลังงานในรูปแบบปิรามิดทำให้ผิวด้านบนถูกทำลายเพียงเล็กน้อย ไม่เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงในขณะที่พลังงานลงสู่ผิวชั้นลึกได้มาก จึงสามารถกระตุ้นการเกิดคอลลาเจนได้ดีกว่า Fractional ทั่วไป ความถี่ในการรักษานั้นแนะนำการรักษาต่อเนื่อง 3-4 ครั้ง ก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ระยะห่าง 4-6 สัปดาห์ต่อครั้ง หรือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
ผลลัพธ์หลังการรักษาด้วย Sublative RejuvenationTM
- รักษาหลุมสิวและริ้วรอย
- ช่วยทำให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น
- กระชับรูขุมขน เพิ่มความเรียบเนียน
- สามารถยกกระชับได้ในคราวเดียวกัน
ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา คุณจึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
บทความทางการแพทย์ศูนย์ผิวหนังและความงาม