การผ่าตัดบายพาสหัวใจ (CABG) อีกหนึ่งการรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
ศูนย์ : ศูนย์หัวใจ
บทความโดย : พญ. พัชรี ภาวศุทธิกุล
การรักษาผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดหัวใจตีบมากกว่า 70% มีอาการมาก หรือมีกล้ามเนื้อหัวใจตาย รวมไปถึงในกรณีที่มีเส้นเลือดหัวใจตีบหลายเส้นหรือตีบในบางตำแหน่งที่หากใช้การรักษาด้วยการทำบอลลูนหัวใจและใส่ขดลวดอาจทำให้เส้นเลือดเสียหายได้ การผ่าตัดทำทางเบี่ยงเส้นเลือดหัวใจหรือ การผ่าตัดบายพาสหัวใจ (CABG; Coronary Artery Bypass Grafting) เป็นอีกทางเลือกในการรักษาและลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายโดยเฉียบพลันได้ดี ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจอย่างชัดเจนว่า การผ่าตัดบายพาสคืออะไร? และมีขั้นตอนอย่างไร? ไปทำความเข้าใจกัน
สารบัญ
การผ่าตัดบายพาสหัวใจคืออะไร
การผ่าตัดทำทางเบี่ยงเส้นเลือดหัวใจหรือ การผ่าตัดบายพาสหัวใจ (CABG; Coronary Artery Bypass Grafting) เป็นการผ่าตัดเพื่อทำทางเบี่ยงเสริมเส้นเลือดบริเวณที่มีการตีบหรือตันให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น โดยเส้นเลือดที่จะนำมาใช้ ได้แก่ เส้นเลือดแดงบริเวณหน้าอก บริเวณข้อมือ และเส้นเลือดดำบริเวณขา ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพของเส้นเลือดว่าตำแหน่งไหนดีกว่ากัน
ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดบายพาสหัวใจ
- เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบอย่างรุนแรง
- ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย
- มีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
- กรณีที่มีเส้นเลือดหัวใจตีบหลายเส้นหรือตีบในบางตำแหน่ง ที่หากใช้การรักษาด้วยการทำบอลลูนหัวใจและใส่ขดลวดอาจทำให้เส้นเลือดเสียหายได้
การผ่าตัดบายพาสหัวใจทำได้กี่วิธี
การผ่าตัดบายพาสหัวใจมีหลายวิธี โดยศัลยแพทย์หัวใจจะเป็นผู้ทำการวินิจฉัยและตัดสินใจว่าควรใช้วิธีใดในการผ่าตัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้แก่
- การผ่าตัดบายพาสหัวใจโดยใช้เครื่องปอดหัวใจเทียมทำผ่าตัด (on-pump CABG) โดยศัลยแพทย์จะหยุดหัวใจผู้ป่วยระหว่างการผ่าตัด และใช้อุปกรณ์ช่วยเพื่อให้เส้นเลือดยังสามารถทำงานได้เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกาย โดยไม่ผ่านหัวใจ
- การผ่าตัดบายพาสหัวใจโดยไม่ใช้เครื่องปอดหัวใจเทียมทำผ่าตัด (off-pump CABG) โดยศัลยแพทย์จะไม่หยุดหัวใจผู้ป่วยระหว่างการผ่าตัด และไม่ได้ใช้อุปกรณ์พิเศษในการสูบฉีดเลือด เป็นการผ่าตัดแบบหัวใจยังเต้นอยู่โดยใช้เครื่องมือ Local Stabilizer เกาะยึดหัวใจในจุดที่ทำการต่อเส้นเลือดให้หยุดนิ่ง ในขณะที่ส่วนอื่นของหัวใจยังเต้นเป็นปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงผลแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้เครื่องปอดและหัวใจเทียม
ก่อนทำผ่าตัดบายพาสหัวใจเตรียมตัวอย่างไร
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดทำบายพาสหัวใจ ผู้ป่วยจะต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- ผู้ป่วยรับประทานอาหาร และยา ตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- งดการสูบบุหรี่ และ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ประเมินความพร้อมก่อนการผ่าตัด โดยทีมศัลยแพทย์หัวใจและวิสัญญีแพทย์
- ตรวจเช็คร่างกาย ได้แก่ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทำการเอกซเรย์ปอด และเจาะเลือดตรวจสำหรับเตรียมเลือดสำรองไว้
- เข้าพักที่โรงพยาบาล 1 วันก่อนผ่าตัด เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกาย
ขั้นตอนการผ่าตัดบายพาสหัวใจ
โดยผู้ป่วยจะต้องดมยาสลบ จากนั้นแพทย์จะทำการผ่าตัดตรงบริเวณหน้าอกลงไปและตัดเส้นเลือดที่ปกติและมีคุณภาพ เช่น เส้นเลือดดำบริเวณขา หรือเส้นเลือดแดงบริเวณแขน มาทำทางเบี่ยงข้ามหลอดเลือดแดง ในบริเวณที่ตีบ หรือ อุดตัน เมื่อได้เส้นเลือดที่ดีที่สุดแล้ว แพทย์จะต่อเชื่อมเข้ากับเส้นเลือดแดงใหญ่ (เอออร์ต้า) ไปยังส่วนปลายของเส้นเลือดแดงหัวใจที่มีการอุดตัน เพื่อเพิ่มเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจให้เพียงพอ ซึ่งจะช่วยรักษาอาการหัวใจขาดเลือด และทำให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดบายพาสหัวใจ
เมื่อผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดบายพาสหัวใจเรียบร้อยแล้ว ต้องปฏิบัติตัวดังนี้
- ผู้ป่วยต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อติดตามการรักษา
- หลังจากนั้นแพทย์จะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน
- ผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และติดตามผลการรักษากับแพทย์อย่างเคร่งครัด
- เมื่อแผลหายสนิทประมาณ 10 วันหลังผ่าตัด สามารถอาบน้ำได้
- ควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ควบคุมโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
- งดสูบบุหรี่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และจัดการกับความเครียด
- ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้คลอเลสเตอรอลในเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูง หากปรุงอาหารควรเลือกใช้น้ำมันพืช แทนเนยหรือน้ำมันจากสัตว์ หรือให้วิธีลวก ต้ม นึ่ง และอบแทน การทอด
- สามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติที่เบาๆ ได้ภายใน 2 เดือนและสามารถกลับไปเล่นกีฬาได้ภายใน 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายของผู้ป่วยแต่ละบุคคล
ความเสี่ยงและอาการแทรกซ้อน
การผ่าตัดบายพาสถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงมีความเสี่ยงและอาจเกิดอาการแทรกซ้อนได้ อย่างไรก็ตามโอกาสในการเกิดอาการแทรกซ้อนต่ำและส่วนมากสามารถแก้ไขได้ดังนี้
- ติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
- มีเลือดออก
- ไตวาย
- อัมพาต
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- หัวใจวายหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
การผ่าตัดบายพาสหัวใจ (CABG; Coronary Artery Bypass Grafting) เป็นอีกทางเลือกในการรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาการรักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่าเคร่งครัด
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์หัวใจ