ตรวจมะเร็งมีวิธีการใดบ้าง ตรวจเจอเร็วมีโอกาสหายก่อนลุกลาม

ศูนย์ : ศูนย์มะเร็ง

บทความโดย : นพ. กิตติพงษ์ อุดมดำรงกุล

ตรวจมะเร็ง

แม้ว่าโรคมะเร็ง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย แต่ก็มีผู้ป่วยโรคมะเร็งหลายคนมีอาการดีขึ้น และยังมีโรคมะเร็งหลายชนิดที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำให้มีผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่รับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งตั้งแต่เนิ่น ๆ บวกกับความก้าวหน้าของเครื่องมือในการตรวจมะเร็งต่าง ๆ เช่น สารบ่งชี้มะเร็ง การตรวจยีนก่อโรคมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งหากตรวจพบได้ไว และเข้าสู่กระบวนการรักษาเร็ว ก็มีโอกาสสูงในการรักษาให้หายขาด ลดอัตราการเสียชีวิตได้


ความสำคัญของการตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง


การตรวจคัดกรองมะเร็งสำคัญอย่างไร การตรวจคัดกรองมะเร็งสำคัญอย่างไร

การตรวจมะเร็ง หรือการคัดกรองมะเร็งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจพบโรคมะเร็งในระยะเริ่มต้น ซึ่งเป็นช่วงที่เซลล์มะเร็งยังจำกัดอยู่เฉพาะที่และมีขนาดเล็ก ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาด ได้สูงกว่าการตรวจพบในระยะลุกลาม การตรวจพบเร็วขึ้นยังช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษา เพราะความซับซ้อนในการรักษาน้อยกว่ามะเร็งระยะกึ่งลุกลามหรือระยะสุดท้าย

นอกจากนี้ การตรวจมะเร็ง คัดกรองโรคยังลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ในภาพรวม และช่วยให้ทราบความเสี่ยง เพื่อวางแผนการป้องกันที่เหมาะสม การตรวจพบโรคมะเร็งในระยะต้นยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็ง เช่น การทำคีโม หรือการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ได้อีกด้วย อีกทั้งการเข้ารับการตรวจอย่างสม่ำเสมอยังเป็นการสร้างความตระหนักและใส่ใจสุขภาพของตนเอง และสามารถตรวจพบความผิดปกติก่อนปรากฏอาการ ทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที การคัดกรองบางชนิดยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ เช่น การตัดติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ก่อนที่ติ่งเนื้อนั้นกระจายเป็นเซลล์มะเร็ง การตัดชิ้นเนื้อเยื่อบุปากมดลูกในกรณีพบรอยดรคขั้นสูงหรือป้องกันการกลายเป้นโรคมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น การตรวจคัดกรองจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ

> กลับสารบัญ


คนกลุ่มไหนบ้างที่ควรเข้ารับการตรวจมะเร็ง

การตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง เริ่มจากการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โดยผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งทุกคนควรได้รับการตรวจคัดกรอง โดยเราสามารถแบ่งเป็น กลุ่มความเสี่ยงสูง และกลุ่มความเสี่ยงทั่วไป ดังนี้

1. กลุ่มความเสี่ยงสูง เป็นกลุ่มที่ควรตรวจมะเร็งมากที่สุด เช่น

  • มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งมากกว่า 1 รุ่น โดยเฉพาะโรคมะเร็งชนิดเดียวกัน หรือเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุน้อย
  • ผู้ที่มีประวัติสัมผัสสารก่อมะเร็ง เช่น สูบบุหรี่เป็นประจำ อาชีพที่สัมผัสมลพิษ สารเคมีเป็นประจำ มีโรคประจำตัวบางอย่าง ได้แก่ โรคไวรัสตับอักเสบ โรคตับแข็ง มีเพศสัมพันธ์แบบเสี่ยงที่ไม่ได้ป้องกัน

2. กลุ่มความเสี่ยงทั่วไป (การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งตามเพศและช่วงอายุ) แม้ไม่มีประวัติครอบครัวเรื่องโรคมะเร็ง ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ทุกคนก็เสี่ยงต่อการเกิดโรงมะเร็งได้ การตรวจมะเร็ง หรือตรวจคัดกรองโรคมะเร็งในผู้ที่มีความเสี่ยงปกติ โดยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย เพื่อค้นหาความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าวและตรวจคัดกรองตามคำแนะนำของสมาคมมะเร็ง โดยเป็นการตรวจคัดกรองตามช่วงวัยที่เหมาะสม อาทิ

  • ผู้หญิงอายุ 25-65 ปี ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear หรือ HPV test) ตามคำแนะนำแพทย์
  • ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรมตามคำแนะนำแพทย์
  • ผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์เรื่องการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากและลำไส้ใหญ่
  • ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป (ทั้งชายและหญิง) ควรตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ (เช่น ตรวจอุจจาระ ส่องกล้อง) ตามคำแนะนำแพทย์

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยสามารถพูดคุยปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองเพิ่มเติมภายหลังจากทราบข้อดี ข้อเสียของการตรวจแต่ละชนิด

> กลับสารบัญ


วิธีการตรวจมะเร็งและวินิจฉัยโรค


ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง

ปัจจุบันการตรวจโรคมะเร็ง หรือ ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งสามารถทำได้หลายวิธี และไม่ยุ่งยากเหมือนในอดีต การตรวจแต่เนิ่น ๆ มีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยให้รักษาได้ทันและเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดสูงขึ้น

1.วิธีตรวจมะเร็งด้วย Tumor Marker ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งหาสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor Marker) เป็นการตรวจสารชีวโมเลกุลที่ถูกสร้างจากเซลล์มะเร็งเอง และหลั่งออกมาในกระแสเลือดหรือสารคัดหลั่งอื่น ๆ ของร่างกาย มักตรวจมะเร็งเพื่อหาแนวโน้มหรือความเสี่ยงที่อาจจะเป็นมะเร็ง การตรวจด้วยวิธีจะเป็นการตรวจเลือดหามะเร็ง โดยสารบ่งชี้มะเร็ง (tumor marker) ที่ตรวจได้ เช่น AFP สารบ่งชี้มะเร็งตับ CEA สารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ใหญ่ PSA สารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก CA-15-3 สารบ่งชี้มะเร็งเต้านม และ CA125 สารบ่งชี้มะเร็งรังไข่


2.วิธีตรวจมะเร็งจากยีนถ่ายทอดทางพันธุกรรม ผู้ป่วยโรคมะเร็งประมาณร้อยละ 5 เกิดจากการรับยีนก่อโรคมะเร็ง มาจากพ่อหรือแม่ ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้แม้อายุน้อย และก่อเกิดดรคมะเร็งหลายชนิดในคนๆหนึ่ง เราสามารถตรวจคัดกรองยีนก่อโรคมะเร็งทางพันธุกรรมได้จากเลือดหรือเซลล์จากเยื่อบุกระพุ้งแก้ม โดยมีชุดการตรวจที่มีบริการ ดังนี้

  • ชุดการตรวจคัดกรองหาความเสี่ยงโรคมะเร็งจากยีน หรือพันธุกรรม ที่สามารถวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมของยีน 70 ยีน ครอบคลุมมะเร็ง 10 ชนิด ถือว่าเป็นการตรวจหาความผิดปกติเชิงรุกของยีนในร่างกายลงลึกถึงระดับดีเอ็นเอ สามารถตรวจหาความเปลี่ยนแปลงหรือการกลายพันธุ์ของยีนได้อย่างแม่นยำ ที่สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่าง ๆ เช่น ยีน BRCA1, BRCA2 ที่สัมพันธ์กับโรคมะเร็งเต้านมและ มะเร็งรังไข่ ยีน APC ที่สัมพันธ์กับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
  • ชุดการตรวจคัดกรองหาความเสี่ยงโรคมะเร้งจากยีน 10 ยีน ครอบคลุมมะเร็ง 3 ชนิด ที่พบได้บ่อย ได้แก่ เพศชาย ครอบคลุมโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ในเพศหญิง ครอบคลุมโรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งรังไข่และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

3. ตรวจมะเร็ง (ตรวจคัดกรองมะเร็ง) โดยเครื่องมือพิเศษขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง เช่น

  • ผู้หญิงตรวจมะเร็งเต้านม ด้วยอัลตราซาวด์เต้านม (Ultrasound Breast) และ ดิจิตอลแมมโมแกรม ตรวจมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธี Pap Smear และ HPV DNA Testing
  • ผู้ชายตรวจมะเร็งต่อมลูกหมาก ด้วยวิธีตรวจสารบ่งชี้มะเร็ง (PSA และ Free PSA) และอัลตราซาวด์ หรือ MRI (เมื่อจำเป็น)
  • ตรวจมะเร็งปอด ด้วยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์รังสีต่ำ (Low-Dose CT Lung Screening) ในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป (โดยเฉพาะผู้สูบบุหรี่จัดหรือมีประวัติเสี่ยง)
  • ตรวจมะเร็งกระเพาะอาหาร ด้วยการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารส่วนต้น (Gastroscopy)
  • ตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)
  • ตรวจมะเร็งตับ ด้วยการตรวจสารบ่งชี้มะเร็ง (PIVKA-II & AFP) และ อัลตราซาวด์ตับ

> กลับสารบัญ


ปรึกษาแพทย์ออนไลน์

โปรแกรมตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง

โปรแกรมตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง จะครอบคลุมการตรวจร่างกาย การตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็ง และการตรวจภาพถ่ายทางการแพทย์ ได้แก่

รายการตรวจคัดกรองมะเร็งสำหรับผู้ชาย

ก่อนตรวจมะเร็งจะมีการให้คำปรึกษาเบื้องต้น และหลังการตรวจโดยแพทย์เฉพาะทางโรคมะเร็ง ประเมินความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เกี่ยวเนื่องกับการเกิดโรคมะเร็ง โดยคุณผู้ชายมีโปรแกรมตรวจมะเร็ง ดังนี้

  1. เอกซเรย์ปอดและหัวใจ (Chest X-ray)
  2. ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องทั้งหมด (Ultrasound Whole Abdomen)
  3. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count)
  4. ตรวจการทำงานของตับ ได้แก่ SGOT (AST) SGPT (ALP) และ Alkaline Phosphatase
  5. ตรวจปัสสาวะ (Urine Examination)
  6. ตรวจอุจจาระหาความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Stool Examination with Occult Blood)
  7. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
  8. ตรวจหาเชื้อและภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบซี HCV DUO (Anti - HCV + HCV core Ag)
  9. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับ (ชนิดใหม่) PIVKA-II AFP (GAAD Score)
  10. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ (CEA)
  11. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับอ่อนและท่อน้ำดี (CA19-9)
  12. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมากได้แก่ Total PSA และ Free PSA

รายการตรวจคัดกรองมะเร็งสำหรับผู้หญิง

สำหรับผู้หญิง จะมีการให้คำปรึกษาก่อน และหลังการตรวจมะเร็งโดยแพทย์เฉพาะทางโรคมะเร็ง ประเมินความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เกี่ยวเนื่องกับการเกิดโรคมะเร็ง เช่นเดียวกัน โดยคุณผู้หญิงมีรายการตรวจ ดังนี้

  1. เอกซเรย์ปอดและหัวใจ (Chest X-ray)
  2. ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องทั้งหมด (Ultrasound Whole Abdomen)
  3. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count)
  4. ตรวจการทำงานของตับ ได้แก่ SGOT (AST) SGPT (ALP) และ Alkaline Phosphatase
  5. ตรวจปัสสาวะ (Urine Examination)
  6. ตรวจอุจจาระหาความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Stool Examination with Occult Blood)
  7. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
  8. ตรวจหาเชื้อและภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบซี HCV DUO (Anti - HCV + HCV core Ag)
  9. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับ (ชนิดใหม่) PIVKA-II AFP (GAAD Score)
  10. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ (CEA)
  11. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับอ่อนและท่อน้ำดี (CA19-9)
  12. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งเต้านม (CA15-3)
  13. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งรังไข่ (CA125)
  14. ตรวจภายใน และมะเร็งปากมดลูก โดยสูตินรีแพทย์
  15. ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ร่วมกับตรวจหาเชื้อเอชพีวีระดับ DNA ด้วยวิธี Path Tezt และHPV DNA Test
  16. ตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องดิจิทัลแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์เต้านม (อายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไป)

> กลับสารบัญ


เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์เพื่อตรวจมะเร็ง

คุณควรพบแพทย์เพื่อตรวจมะเร็งเมื่อคุณมีอาการหรือสัญญาณที่น่าสงสัย ได้แก่

  • มีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น ไฝหรือปานที่เปลี่ยนขนาด รูปร่าง สี หรือมีเลือดออก แผลที่ไม่หาย หรือผิวหนังหนาตัวผิดปกติ
  • มีก้อนเนื้อหรืออาการบวม คลำเจอก้อนเนื้อที่เต้านม ต่อมน้ำเหลือง หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
  • น้ำหนักลดผิดปกติโดยไม่มีสาเหตุ
  • มีไข้ต่ำ ๆ หรืออ่อนเพลียเรื้อรัง
  • มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่าย เช่น ท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง อุจจาระมีเลือดปน ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ หรือปัสสาวะมีเลือดปน
  • ไอเรื้อรังหรือเสียงแหบ
  • กลืนลำบาก
  • มีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกจากช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน เลือดกำเดาไหลบ่อย หรือมีเลือดออกในปัสสาวะหรืออุจจาระ
  • ปวดเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการปวดที่ไม่หายไปหรือแย่ลง

> กลับสารบัญ


ตรวจมะเร็งช่วยป้องกัน และรักษาอย่างทันท่วงที

การตรวจมะเร็ง ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีความกังวลว่าจะเป็นมะเร็งนั้นนับว่ามีความสำคัญอันดับแรก ที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรค ขณะเดียวกันหากตรวจพบมะเร็งระยะเริ่มแรก ทำให้การรักษาเป็นไปได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และทันท่วงที โดยศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลนครธน ให้บริการตรวจวิเคราะห์มะเร็งเจาะลึกถึงระดับยีน ทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งได้ตรงตามชนิด ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ช่วยให้ค้นพบมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง หรือมีประวัติสูบบุหรี่ เพื่อให้สามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว

> กลับสารบัญ


ช่องทางติดต่อโรงพยาบาลนครธน:

  1. - Website : https://www.nakornthon.com
  2. - Facebook : Nakornthon Hospital
  3. - Line : @nakornthon
  4. - Tel: 02-450-9999 (ตลอด 24 ชั่วโมง)


ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย




Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย