ภาวะน้ำตาลสูงในเลือดวิกฤต เสี่ยงภาวะเลือดเป็นกรด (DKA)

ศูนย์ : ศูนย์อายุรกรรม

บทความโดย : พญ. สุภัทรา ปวรางกูร

น้ำตาลสูงในเลือดวิกฤต

ผู้ป่วยเบาหวาน เป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค หรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดีพอจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน คือ น้ำตาลสูงในเลือดวิกฤต ซึ่งประกอบด้วย ภาวะคีโตอะซิโดซิส (Diabetic ketoacidosis) และภาวะไฮเปอร์กลัยซีมิค-ไฮเปอร์ออสโมลาร์ (Hyperglycemic hyperosmolar state) ที่จะทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรด


ภาวะน้ำตาลสูงในเลือดวิกฤต ประกอบด้วย

  1. ภาวะคีโตเอซิโดซิส (Diabetic Ketoacidosis : DKA)

    คือ การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับภาวะเลือดเป็นกรดจากการที่มีสารคีโตนสะสมในเลือด พบได้ทั้งในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่1 และผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเกิดจากภาวะขาดฮอร์โมนอินซูลินหรือมีไม่เพียงพอร่วมและ มีการสร้างฮอร์โมนเพิ่มกลูโคสเพิ่มขึ้นจึงทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานที่เนื้อเยื่อต่างๆ ได้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และเกิดการสลายไตรกลีเซอร์ไรด์ที่เนื้อเยื่อไขมันทำให้เกิดคีโตน และเมื่อคีโตนภายในเลือดสูง จะทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรด

    อาการของภาวะเลือดเป็นกรด (DKA)

    • คลื่นไส้ อาเจียนมาก
    • ปวดท้อง
    • คอแห้ง กระหายน้ำ
    • ปัสสาวะบ่อย
    • ลมหายใจมีกลิ่นเหมือนผลไม้
    • หายใจหอบลึก
    • ตรวจพบคีโตนในปัสสาวะ
    • อ่อนเพลีย
    • น้ำหนักลด
    • ซึมลง หมดสติ

    ซึ่งหากยังไม่ได้รับการรักษาจะเกิดอาการที่รุนแรงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

  2. ไฮเปอร์กลัยซีมิค-ไฮเปอร์ออสโมลาร์ (Hyperglycemic hyperosmolar state)

    คือ ภาวะระดับน้ำตาลสูงร่วมกับมีภาวะออสโมแลลิตีสูงในเลือดด้วย ซึ่งภาวะระดับน้ำตาลนี้จะสูงมากกกว่าภาวะ DKA และไม่พบภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน มักพบในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 สาเหตุเกิดจากการขาดอินซูลิน แต่ยังมีเพียงพอที่ยับยั้งการสลายเนื้อเยื่อไขมันทำให้ไม่มีการสร้างคีโตน

    อาการไฮเปอร์กลัยซีมิค-ไฮเปอร์ออสโมลาร์

    • ปัสสาวะบ่อย
    • หิวน้ำบ่อย
    • น้ำหนักลด
    • ซึมลง หรือหมดสติ

> กลับสารบัญ


ปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะน้ำตาลสูงในเลือดวิกฤต

ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะนี้ ได้แก่

  1. การขาดฮอร์โมนอินซูลิน โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ที่เพิ่งเริ่มวินิจฉัยซึ่งเกิดจากตับอ่อนไม่หลั่งอินซูลิน หรือในผู้ป่วยเบาหวานชนิด 2 ที่เป็นโรคมานานและควบคุมระดับน้ำตาลไม่ดี ตับอ่อนหลั่งอินซูลินลดลง จำเป็นต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ หากผู้ป่วยหยุดฉีดอินซูลินหรือฉีดอินซูลินลดลง จะทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรด (DKA) ได้
  2. ภาวะติดเชื้อ การได้รับอุบัติเหตุ หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด การผ่าตัดใหญ่ ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เช่น ตับอ่อนอักเสบ
  3. ความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ไทรอยด์เป็นพิษ
  4. การได้รับยาบางชนิดที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เช่น ยาสเตียรอยด์ ยากดภูมิคุ้มกัน

> กลับสารบัญ


ปรึกษาแพทย์ออนไลน์

การรักษาภาวะน้ำตาลสูงในเลือดวิกฤต

  1. การให้สารน้ำทดแทนให้เพียงพอ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานคงที่ ทำให้ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดลดลง และทำให้ภาวะเป็นกรดในร่างกายดีขึ้น
  2. การให้อินซูลินโดยผ่านทางหลอดเลือดดำของผู้ป่วยจนกว่าระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลง และเลือดไม่มีความเป็นกรด
  3. การให้เกลือแร่ เช่น โซเดียม โพแทสเซียม ซึ่งอาจลดต่ำลงได้เนื่องจากการขาดอินซูลิน ผ่านการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้กล้ามเนื้อ เส้นประสาท และหัวใจสามารถทำงานได้ตามปกติ พร้อมทั้งติดตามระดับอย่างใกล้ชิด
  4. รักษาโรคที่พบร่วมและอาจเป็นเหตุกระตุ้นได้เช่นการติดเชื้อต่างๆ รวมทั้งติดตามอาการใกล้ชิดเพื่อตรวจและรักษาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

> กลับสารบัญ



ทั้งนี้ภาวะน้ำตาลสูงในเลือดวิกฤต เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ หากผู้ป่วยเบาหวาน มีอาการคลื่นไส้อาเจียน กระหายน้ำ ปัสสาวะมาก อ่อนเพลีย ปวดท้องและซึมลง รีบมาพบแพทย์ เพราะหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้สามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลจากแพทย์ออนไลน์ได้เลย



ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย





Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย